บล.ฟิลลิป:

OR กำไร 3Q66 ค่อนข้างเซอร์ไพรส์

ซื้อ TP’67: 25.00

3Q66 กำไรโตกว่า 88% q-q เนื่องจากมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันช่วยหนุน ทำให้มีกำไรขั้นต้นต่อลิตรเพิ่มขึ้นกว่า 31% โดยที่แม้ปริมาณขายน้ำมันปรับตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล เช่นเดียวกับยอดขายกาแฟ Amazon แต่โดยรวมยังโตอย่างมาก ตามกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่เพิ่มขึ้น มุมมอง 4Q คาดกำไรขั้นต้นต่อลิตรจะกลับมาระดับปกติ แต่จะมีแรงหนุนเนื่องจากเป็นช่วง High Season คงคำแนะนำ “ซื้อ”

งบรวม

3Q66

2Q663Q65% у-у% q-q9M669M65

% у-у

กำไร

5,170

2,756701+637.5+87.510,90111,114+1.9

EPS

0.290.250.09+637.5+87.50.910.93

+1.9

หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท

  • กำไร 3Q66 โตจากสต๊อกน้ำมัน :  กำไรจะโตอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าตลาด โดยหลักจากธุรกิจ Mobility ที่กำไรขั้นต้นต่อลิตรเพิ่มขึ้นมาจาก 0.96 บาท / ลิตรเป็น 1.26 บาท / ลิตร ซึ่งปัจจัยหลักเนื่องจากได้รับกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน ด้านปริมาณขายน้ำมันสำหรับรายย่อยลดลง -8.6% q-q ตามปัจจัยฤดูกาลในช่วงไตรมาสสามที่เป็นฤดูฝน แต่ปริมาณขายพาณิชย์เพิ่มขึ้นได้ +3.5%q-q จากน้ำมันดีเซลและน้ำมัน Jet ทำให้โดยรวมกำไรธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้นได้เนื่องจากกำไรต่อนิดเพิ่มขึ้น (+0.30 บาท / ลิตร) เป็นปัจจัยหลักที่หนุนกำไรไตรมาสนี้ ด้านธุรกิจต่างประเทศ ปริมาณขายลดลงทุกประเทศตามปัจจัยฤดูกาลแต่ยังมี EBITDA เพิ่มขึ้นได้ตามกำไรขั้นต้นต่อลิตรของดีเซลที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ธุรกิจ Lifestyle อ่อนตัวลง โดยยอดขาย กาแฟ Amazon ลดลง 1.1% เหลือ 92 ล้านแก้ว จากปัจจัยฤดูกาลเช่นกัน โดยมุมมองกำไรใน 4Q66 คาดจะได้รับผลกระทบจากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่จะกลับมาในระดับปกติ โดยกำไรสต๊อกน้ำมันจะไม่มากนัก อย่างไรก็ตามจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ซึ่งจะช่วยหนุนปริมาณขาย ทั้งในส่วนน้ำมันและปริมาณขายกาแฟ Amazon นอกจากนี้ทางฝ่ายมองปัจจุบันราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบแล้ว คงคำแนะนำ ซื้อ TP’67 : 25.00 บาท

 

- Advertisement -