บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Ngern Tid Lor ราคาหุ้นซื้อขายด้วยพรีเมี่ยม PE มากเกินไป

Event

ปรับลดราคาเป้าหมายและปรับลดคำแนะนำจาก Neutral ถือ เป็น Underperform

Impact
ถูกกระทบหนักสุดจากสภาวะการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป
สภาวะการแข่งขันของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย (รวมถึง SCB ด้วย) ขยับเข้ามาในธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภค ทำให้คาดว่า TIDLOR น่าจะได้ผลกระทบหนัก ทั้งนี้ TIDLOR พยายามที่จะลดการพึ่งพิงธนาคารแม่ (BAY) ในเชิงท่ีมาของเงินทุน (สัดส่วนเงินทุนที่มาจาก BAY ลดลงเหลือเพียงประมาณ 33% ของเงินทุนทั้งหมด จาก >60% เมื่อสองปีก่อน) และสินเชื่อผ่านสาขา BAY ~10% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัท มีฐานลูกค้าในมือต่ำ (จำนวนลูกค้าสินเชื่อท่ี <7-8 แสนสัญญา) ทำให้มีข้อจำกัดในการโต ภาวะตลาดท่ีแข่งกันดุเดือดมากข้ึน ทั้งน้ี MTC มีจำนวนลูกค้าประมาณ 2 ล้านบัญชี ในขณะที่ KTC มี~3 ล้านบัญชี (ยังไม่รวมลูกค้าของ KTB อีก >10 ล้านบัญชี), SAWAD มี ~8 แสนบัญชี (+GSB >10 ล้านบัญชี) ทั้งน้ีการเติบโต TIDLOR ในระยะยาวข้ึนกับการผนึกพันธมิตรเพื่อขยายฐานลูกค้า

 

การพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มไปได้ช้าในการสร้างการเติบโต

TIDLOR ทุ่มงบลงทุนไปอย่างหนัก >1 พันล้านบาท (320 ลบ.ใน 1H64, 370 ลบ.ในปี 2563, 220 ลบ.ในปี 2562, 226 ลบ.ในปี 2561) เพื่อการพัฒนาระบบ IT และสร้าง platform ดิจิทัล เพื่อขยายบริการสินเชื่อ, ประกัน, และติดตามหน้ี โดยหน่ึงในโครงการของบริษัทคือการออกบริการ “บัตรติดล้อ” สำหรับสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ และรถยนต์ เพื่อปล่อยกู้ในวงเงินในบัตร และผู้ถือสามารถถอนเงินสดออกมาได้ตลอดเวลาผ่านตู้ ATM ซึ่งกลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้า และติดตาม big data เพื่อพัฒนาบริการในอนาคตได้ โดยเผยว่ามีลูกค้าประมาณ >2 แสนราย (หรือ ~25-30%) ที่ยื่นขอใช้บริการน้ีแล้ว ทั้งน้ีเรามองว่าบริการน้ีเป็นเพียงการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถจะเพิ่มจำนวนธุรกรรม หรือลดต้นทุนได้อย่างเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากน้ีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของบริการน้ี ท่ีคิดเพิ่มอีกเพียง 1% ก็ไม่ได้มากอย่างมีนัยสำคัญ

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564/65 ลงปีละ 4% และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2565F เหลือ 32 บาท พร้อมทั้ง ปรับลดคำแนะนําจากถือเป็นขาย

เราปรับลดประมาณการกำไรลงสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการ yield สินเช่ือปี 2564/65 ลงเหลือปีละ 17% (จากเดิม 17.5%)ในขณะที่ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของสินเช่ือปี 2564/65 เอาไว้เท่าเดิมท่ี 12.5%/14.5% หลังจากท่ีเราพบว่า TIDLOR พัฒนา platform ดิจิทัลเพื่อขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ได้อย่างเช่ืองช้า และยังต้องเผชิญกับสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นจากผู้เล่นรายใหญ่หลายรายอีก เราจึงเป็นห่วงศักยภาพในการเติบโตระยะยาวของ TIDLOR เราได้ปรับลดคำแนะนำจากถือเป็นขาย และ de-rate P/E เหมาะสมเป็น 20x (จากเดิม 28x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 32 บาท (ลดลงจาก 44 บาท)

Risks

ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น, สัดส่วน C/I สูงต่อเนื่อง, ค่านายหน้าบริการประกันไม่โตตามที่คาดไว้

- Advertisement -