KS Daily View 14.11.2023 >>> รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ ! ติดตามการตั้งกองทุน ESG ลดหย่อนภาษี คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,385-1,400 จุด หุ้นแนะนำ BDMS, KAMART

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันก่อน

ต่างประเทศ: ดัชนีDJIA +1.15%, S&P 500 +1.56%, NASDAQ +2.05%โดย Sector ที่ outperformใน S&P500 ได้แก่ IT (+2.59%), Communication Services (+1.68%), Industrials (+1.34%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Utilities (+0.52%) เป็นต้น

ในประเทศ: SET Index -15.40 จุด หรือ -1.1%ปิดที่ 1,389.57 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ STA (+5.11%), BCP (+4.4%), COM7 (4.0%), CPN (+3.6%) เป็นต้น ส่วนที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ JMART (-17.7%), JMT (-17.6%), WHA (-7.2%), DELTA (-6.9%)เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,385 – 1,400 จุด รอประเมินงบ 3Q23 ของไทย รวมถึงทิศทาง Bond yield จาก พรบ.กู้เงิน 5 แสนลบ. และเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้ โดยตลาดคาด US CPI เดือน ต.ค. ที่+1.0% MoM และ +3.3% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.4% MoM และ +3.7% YoY  โดยตลาดล่วงหน้าคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. สูงถึง 86%นอกจากนี้นักลงทุนอาจต้องติดตามเรื่องผลกระทบจากการปรับลดมุมมองด้านเครดิตของสหรัฐฯ รวมถึงความเสี่ยงเรื่อง US government shutdown ก่อนเส้นตายวันที่ 17 พ.ย. นี้ด้วย โดยสภาคองเกรสกำลังพิจารณาร่างข้อเสนอของประธานสภาฯ Mike Johnson ในการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยง Government shutdown ไปก่อน

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) FETCO จะเข้าหารือปลัดคลังวันนี้ คาดว่าจะนำเสนอรูปแบบของกองทุนต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นหลังจากที่ SSF จะหมดอายุมาตรการภาษีในปีหน้า ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม หารือ “ก.ล.ต.-ตลท.” หลังตลาดหุ้นร่วงหนัก ว่าไม่มี Naked Short Sell และเตรียมตั้งกองทุน ESG Fund หนุนตลาดทุน รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ในการประชุมครั้งนี้มีข้อเสนอ ของภาคเอกชนในการจัดตั้ง Thailand ESG Fund เพื่อลงทุนตราสารไทย ที่เป็น ESG โดยลดหย่อนภาษีได้ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 300,000 บาท/ปี รวมทั้งนักลงทุนได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และมีเงื่อนไขลงทุน มากกว่าหรือเท่ากับ 10 ปี

2.) สำนักข่าวไทยรัฐรายงานว่า “เศรษฐา” โรดโชว์ “แลนด์บริดจ์” (ชุมพร-ระนอง) ดึงนักลงทุนสหรัฐฯ เข้ามาลงทุน ลั่นถ้าโครงการเกิด ช่วยสร้างโอกาสสร้างอนาคตประเทศ เกิดจ้างงาน ยกระดับรายได้ เด็กไทยไม่ย้ายประเทศ ขณะที่บีโอไอเผยนัดบริษัทชั้นนำสหรัฐฯ คุยนายกฯ และเอกชนไทย พร้อมดึงอีวี-ดิจิทัล-อิเล็กทรอนิกส์มาลงทุน

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,425 จุด รอประเมินทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย 10 ปี ล่าสุดปรับขึ้น 10bps. WTD เป็น 3.18% หลังรัฐบาลเปิดเผยว่าจะออกพรบ. กู้เงิน 5 แสนลบ. เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งนี้ปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1.) การรายงานผลประกอบการ 3Q23 ของไทย 2.) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ต.ค. โดยตลาดคาดว่าจะขยายตัว +0.1% MoM และ +3.3% YoY 3.) การพบปะของผู้นำสหรัฐฯ และจีนในการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC คืนวันพุธนี้ 4.) การ review หุ้นเข้าออก MSCI ในวันที่ 14 พ.ย. (เช้าวันที่ 15 พ.ย. ของไทย)

หุ้นแนะนำวันนี้

Top pick:

  • BDMS (ราคาพื้นฐาน 34.10 บาท) กำไรปกติไตรมาส 3/66 ที่ 3.89 พันลบ.ดีกว่าคาด 7% และสูงสุดตลอดกาล เนื่องจากรายได้โตแข็งแกร่ง และอัตรากำไรสูงกว่าคาดจากการประหยัดต่อขนาดที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยชดเชย SG&A ที่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER ปี 2566 ที่ 30 เท่า และ 26.7 เท่าในปี 2567 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 32 เท่า
  • KAMART (ราคาพื้นฐาน 12.23 บาท) กำไรปกติไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 144 ลบ. (+63.8%YoY และ +11.3% QoQ) สูงกว่าประมาณการของเรา 10% จากรายได้และ GPM ที่ดีกว่าคาด กำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 คิดเป็น 76.7% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 533 ลบ.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของเยอรมัน (Zew Economic Sentiment) เดือนพ.ย. ตลาดคาดที่ 2.5 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -1.1 ต่อด้วยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Consumer Price Index – CPI)เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ +3.3% YoY และ +0.1% MoM  ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ +4.1% YoY และ +0.3% MoM
  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน (Industrial Production) เดือนต.ค. ตลาดคาดที่ 4.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.5% YoY ต่อด้วยตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (Retail Sales) เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ 2.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.8% YoY และตัวเลขดัชนีภาคการผลิต Empire State Manufacturing Index เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดที่ -2.6 เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -4.6
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ (Industrial Production) เดือนต.ค. ตลาดคาดที่-0.5% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.1% YoY และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาฯ (NAHB Housing Market Index) ของสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ตลาดคาดทรงตัวที่ 40 จุดเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของยุโรปทั่วไป (Consumer Price Index – CPI) เดือน ต.ค. ตลาดคาดที่2.9% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.3% YoY และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ตลาดคาดที่ 4.2% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.5% YoY ต่อด้วยตัวเลขขออนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 1.45 ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.47 ล้านยูนิต และจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ตลาดคาดที่ 1.35ล้านยูนิต เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.36 ล้านยูนิต
- Advertisement -