“ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล” กวาดกำไร 9 เดือนปี 2566 ที่ 41.92 ลบ. สูงกว่ากำไรทั้งปี 2565 หลังขยายตัวแทนจำหน่าย “Aquatek” ดันรายได้เพิ่ม พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าธุรกิจผลิตสินค้า ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายสาขา ศึกษาร่วมทุนพันธมิตร ปั้นเขต Free Zone หนุนธุรกิจโตตามแผน
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 194.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 12.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 594.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 527.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.36 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 27.56 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรทั้งปี 2565 ที่มีกำไร 36.03 ล้านบาท
โดยมีสาเหตุหลักจากการขยายตัวแทนจำหน่าย Aquatek เป็น 12 สาขาในปี 2566จากเดิมในปี 2565 ที่มี 3 สาขา และการขยายตัวแทนขายส่งสำหรับร้านค้าทั่วไป และการนำสินค้ารุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตในทุกกลุ่มประเภทสินค้า ทั้งกลุ่มครัวเรือน พาณิชย์ อุตสาหกรรม สารกรอง เป็นต้น
ในขณะที่บริษัทฯ วางแผนในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทย่อย 1 บริษัท ด้วยทุนจดทะเบียน 160,000,000 บาท โดย FTI ถือหุ้นในสัดส่วน 99% ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าทำสัญญาซื้อที่ดิน มูลค่ารวม 156,345,000 บาท ในเขตพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ EEC เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าของบริษัทฯ และนำพื้นที่ส่วนที่เหลือใช้งานไปประกอบการธุรกิจเช่าโรงงาน และการจัดทำพื้นที่เขตปลอดอากร หรือ Free Zone ในอนาคต โดยบริษัทย่อยได้ดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจเพื่อรองรับกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางด้านโลจิสติกส์ที่มีความสะดวกในการคมนาคมขนส่งทั้งในภูมิภาค และการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงช่วยลดต้นทุนจากการนําเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ สร้างธุรกิจต้นน้ำที่มีความมั่นคง ตลอดจนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรจากต่างประเทศที่สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุนมากขึ้นในอนาคต
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ เช่นเครื่องกรองน้ำ ชุดกรองน้ำ ระบบผลิตน้ำอ่อน ชุดกรองน้ำที่สามารถใช้คู่กับฝักบัวอาบน้ำ ระบบบริหารจัดการน้ำอุตสาหกรรม เป็นต้น และการเดินหน้าขยายสาขา Water Store เป็น 24 สาขาจากในปัจจุบันที่ 22 สาขา เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าขายส่งเพื่อผู้ประกอบอาชีพระบบกรองน้ำ และครัวเรือนทั่วไป และการขยายสาขาAquatek Shops เป็น 50 สาขาจากในปัจจุบันที่ 12 สาขา ขยายกลุ่มลูกค้าครัวเรือนระดับ High End ที่มี Life Style ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
รวมถึงการเปิดตัว “ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด” ในการเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ Aquatek เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกิจกรรม และการสื่อสารทางการตลาดให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นในอนาคต รวมถึงเดินหน้าพัฒนาการวิจัย และสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาศักยภาพของบุคลากร เพิ่มทักษะ และประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต และการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจ เพื่อเป็นปัจจัยที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต