คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันน้ี

คาดดัชนีฯ Sideway Down แนวต้าน 1620 / 1625 จุด แนวรับ 1610 / 1600 จุด แนะนำเก็งกำไร KSL BEM DTAC ทางเทคนิค ระยะสั้นมีแนวโน้มปรับฐานไปที่แนวรับสำคัญ 1600 จุด หลังจากท่ีดัชนีฯ วานนี้ ปิดต่ำกว่า 1620 จุด

กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำเก็งกำไร

1) กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่ราคาสินค้าบางประเภทเริ่มมีการฟื้นตัว เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำตาล หุ้นแนะนำ KSL AIE

2) หุ้นท่ีได้ประโยชน์จากการลดเวลาเคอร์ฟิว 1 ชั่วโมง ช่วยหนุนกำไร 4Q21 ฟื้นตัว หุ้นแนะนำ BEM

3) หุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัด หากอุทกภัยมีการยืดเยื้อ เช่น กลุ่มสื่อสาร หุ้นแนะนำ DTAC

ไฮไลน์สำคัญของวันน้ี

1) ผลการประชุมกนง. ช่วงบ่ายวันนี้ โดยผลสำรวจของ Bloomberg Consensus ส่วนใหญ่คาดคงดอกเบี้ยนโยบายท่ีระดับเดิม 0.5% แม้จะมีบางนักเศรษฐศาสตร์ที่ส่งสัญญาณว่าอาจมี Surprise ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 0.25%

2) China Evergrande มีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จำนวน USD45.17mn ในวันนี้ โดยตลาดคาดว่าจะมีการผิดนัดชาระอีกครั้งหลังจากมีการผิดนัดชำระดอกเบี้ยไปแล้วเมื่อวันที่ 23ก.ย.ที่ผ่านมา

3) Japan จับตาการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP วันท่ี 29 ก.ย. ซึ่งคาดว่านายโคโนะจะได้รับชัยชนะ และได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ คนใหม่ ในวันที่ 4 ต.ค. ก่อนที่จะมีการยุบสภา เพื่อเลือกต้ังครั้งใหม่ภายในเดือน พ.ย. (ตลาดหุ้นญี่ปุ่นตอบรับในเชิงบวก จากสถิติของการเลือกต้ังในอดีต)

ปัจจัยบวก

1) ราคาน้ำมันดิบยังคงเดินหน้าปรับตัวสูงขึ้น จากสภาวะขาดแคลนพลังงานในจีน คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มพลังงาน สามารถยืนบวกต่อได้ในวันน้ี

2) รฟม. เริ่มประมูลรอบใหม่หลังจากที่ยกเลิกไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. โดยเป็นงานโยธาสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 6 สัญญา ราคากลาง 7.871 หมื่นล้านบาท เป็นบวกต่อกลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง

3) ต่างชาติมีการซื้อสุทธิทั้งในตลาดหุ้น และ TFEX หลังจากค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า

ปัจจัยลบ

1) Bond Yield สหรัฐฯ ปรับตัวสูงข้ึนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ Earning Yield Gap หรือส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นและผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ แคบลง ซึ่งส่งผลลบต่อตลาดหุ้นในกลุ่ม Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของสหรัฐฯ

2) World Bank ปรับลดอัตราการขยายของ GDP ไทยในปี 2021 เหลือเพียง 1% จากคาดการณ์เดิมที่ 2.2% เมื่อเดือน ก.ค. 2021 โดย คาดว่าระบบเศรษฐกิจของไทยจะใช้เวลาในการฟื้นตัวราว 3 ปี

3) สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดกำลังสร้างความกังวลต่อตลาดว่าจะลุกลามเป็นวิกฤติใหญ่คล้ายปี 2011 และอาจเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้จะมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์แล้วก็ตาม

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตาม

  • Opportunity Day วันนี้ ได้แก่ TACC UTP PROS MENA CAZ SC SUTHA
  • ดัชนีความเช่ือมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.ย. ของทาง Euro Zone คาดกว่าจะออกมาท่ี -4 ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าท่ี -5.3
  • สหรฐัฯรายงานตัวเลขบ้านรอการขายประจำเดือนส.ค.คาดว่าจะออกมาเพิ่มข้ึน +1.4%MoM จากท่ีติดลบในเดือน ก.ค.
  • ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาดว่ายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
  • การเลือกต้ังหัวหน้าพรรค LDP ของทางญี่ปุ่น คาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นระยะสั้น

+/- Global Market Summary: วันทำการท่ีผ่านมา

– ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่อง: ตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ก่อนมาปิดตลาดที่ 1616.50 จุด -3.52 จุด วอลุ่ม 9.8 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มธนาคาร -1.77% กลุ่มวัสดุก่อสร้าง -1.39% กลุ่มขนส่ง และโลจิสติกส์ -0.60% และกลุ่มพาณิชย์ -0.22% หุ้นบวก >4% TRUE STGT XPG SPRC WAVE LANNA CFRESH NER STC WORK AIE AGE KSL OTO หุ้นลบ >4% RCL ICN COTTO MFEC B UTP APURE SMT NEWS NEP CIMBT TH

–  หุ้นสหรัฐฯ และยุโรปร่วงหนัก: DJIA -1.63% (-569.38 จุด) S&P500 -2.04% NASDAQ -2.83% ร่วงอย่างหนัก หลังเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรฐัฯคาดหมายว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วงปลายปี 2021 จะอยู่ท่ีเกือบๆ 4% รวมถึง Bond Yield ท่ีปรับเพิ่มข้ึน ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 -2.17% DAX -2.09% FTSE -0.50% ลบหนัก หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดนเทขายหลังจาก Bond Yield ปรับตัวเพิ่มข้ึน

–  ราคาน้ำมันชะลอตัว ส่วนทองคำร่วงหนัก: WTI ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ USD75.29/บาร์เรล Brent ลดลง 44 เซนต์ ปิดที่ USD79.09/บาร์เรล ตลาดน้ำมันก็แกว่งตัวลงปิดในแดนลบ หลังดอลลารส์หรัฐฯแข็งค่าข้ึน ส่วนราคาทองคำลดลง USD14.50 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ปิดที่ USD1,737.50/ออนซ์ จากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน

ประเด็นสำคัญ

–  USD/THB: คาดเคลื่อนไหววันนี้ในกรอบ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังวานนี้ปิดที่ 33.75 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า 22 สตางค์ จากวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 4 ปี หลังดอลล่าร์สหรัฐฯปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากยิลด์พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี พุ่งขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน มิ.ย.

–  Quant Analysis: การครบกำหนดอายุตราสารอนุพันธ์ (Set 50 Index Future) วันท่ี 29 ก.ย. อาจเพิ่มความผันผวนเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทย อิงการถือครองสัญญาอนุพันธ์แบบ Short Position สูงกว่า 3 หมื่นสัญญา MTD

–  China: โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2021 ลงสู่ระดับ 7.8% จากระดับ 8.2% โดยระบุว่าปัญหาขาดแคลนพลังงาน และผลผลิตภาคอตุสาหกรรมที่ลดลงอย่างมากน้ัน ได้เพิ่มแรงกดดันให้เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: IRPC CENTEL
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: KSL BEM DTAC
Derivatives: ถือ Short S50Z21 รอทำกำไรตามเป้า

- Advertisement -