บล.ฟิลลิป:
เบทาโกร – BTG ราคาสุกรพ้นจุดต่ำสุดแล้ว
Key Point
ปัจจุบันราคาสุกรในประเทศปรับตัวขึ้นในเดือน พ.ย. และต้นทุนอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวโพดที่ปรับตั้งลงมามากจะทำให้ 4Q66 ฟื้นตัวได้ q-q คาดว่าราคาสุกรยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความร่วมมือของผู้ผลิตในการลดซัพพลาย และปัจจุบันปริมาณสุกรขุนทั้งประเทศยังน้อยกว่าการบริโภคปกติในไทย ขณะที่ BTG ยังมีการขยายกำลังผลิตอย่างต่อเนื่อง ราคาพื้นฐาน ปี 67 ที่ 26.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ราคาสุกรในประเทศฉุด GPM ช่วง 9M66
9M66 ธุรกิจอาหารสัตว์ รายได้ +16.2%y-y จากมีโรงงานใหม่ในช่วงกลางปี 65 ช่วยเพิ่มปริมาณขายได้มากขึ้น อัตรากำลังผลิตปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นตามธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงรายได้ -2.9%y-y จากในช่วงที่ผ่านมาลูกค้ามีการลดระดับสต๊อก แต่ 3Q66 รายได้กลับมาฟื้นตัว q-q แล้ว และปีหน้ามีขยายกำลังผลิตจะทำให้เติบโตได้ต่อเนื่อง ธุรกิจต่างประเทศ รายได้ -1.7%y-y จากราคาสุกรในกัมพูชาที่ลดลง และได้รับผลกระทบจากค่าเงินลาว ธุรกิจอาหารและโปรตีน รายได้ -8.4%y-y จากราคาสุกรในประเทศปรับตัวลง GPM ลดลงค่อนข้างมาก ดึง GPM รวมอยู่ที่ 10.2%-920bps y-y 9M66 มีขาดทุนสุทธิ 742 ลบ. -112.1%y-y
พ.ย. ราคาสุกรกลับมาฟื้นตัว
ราคาสุกรปรับตัวลงต่ำกว่าปีก่อน ต่ำสุดในช่วงต้น ต.ค. แต่ปัจจุบันราคาสุกรปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือน พ.ย. ขณะต้นทุนนำเข้ากากถั่วเหลืองมีแนวโน้มลดลง แต่อาจเสียประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แต่ภาพรวมยังมีต้นทุนที่ลดลงจากราคาข้าวโพดที่ลดลงมาค่อนข้างต่ำ คาดกำไร 4Q66 ฟื้นตัว q-q และในปี 67 จะมีต้นทุนการเลี้ยงที่ต่ำลงอีก
ซัพพลายสุกรยังต่ำกว่าดีมานด์
ภาพตลาดสุกร ปัจจุบันได้มีความร่วมมือจากผู้ผลิตในการลดซัพพลาย เพื่อพยุงราคาสุกร ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 64-72 บาท/กก. คาดเห็นราคาสุกร 72-75 บาท/กก. ในปลาย พ.ย. และจะยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปัจจุบันปริมาณสุกรขุนยังต่ำกว่าดีมานด์ปกติในไทยที่ 20 ล้านตัว/ปี คาดซัพพลายจะกลับไปถึงช่วงการบริโภคปกติในช่วง 3Q67
ปี 67 เน้นเพิ่มประสิทธิภาพช่วยลดค่าใช้จ่าย
ปี 67 ยังเน้นไปที่ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจอาหารอาหารที่ขยายแบรนด์ให้แข่งแกร่งในทุกช่องทางหาตลาดใหม่ๆ ซึ่งเห็นผลแล้วจากยอดส่งออกอาหารเติบโตสูงใน 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯยังคงขยายกำลังผลิตตามแผนต่อเนื่อง เน้นใช้ระบบเข้ามาช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานทำให้สามารถลดต้นทุนต่อหน่วยแรงงานได้
ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 26.00 บาท/หุ้น อิง EVIEBIDA ที่ 6.6 เท่า
ทางฝ่ายฯ เปลี่ยนวิธีประเมินราคาหุ้น จาก P/E เป็น EV/EBIDA ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีค่าเสื่อมราคาค่อนข้างสูง โดยใช้ EV/EBIDA ที่ 6.6 เท่า ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 26.00 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
- การเกิดโรคระบาดต่างๆในสัตว์
- ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์
- ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน