บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Home Product Center ประมาณการ 3Q64: กำไรจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

Event เราคาดว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ใน 3Q64 จะอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (-20%YoY, -22%QoQ) จากการใช้มาตรการ lockdown บางส่วน และได้รับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาล ส่งผลให้กำไรสุทธิในงวด 9M64 อยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท (+9%YoY) คิดเป็น 75% ของประมารการกำไรปีน้ีของเรา

Impact

SSSG ติดลบอย่างไม่มีทางเลี่ยงในไตรมาสที่สาม

เราคาดว่า SSSG ของ HMPRO ใน 3Q64 จะติดลบอยู่ที่ -7% เนื่องจาก i) มาตรการ lockdown ซึ่งทำให้ต้องปิดสาขาร้านชั่วคราว โดยใน 3Q64 มี HomePro 29 สาขา (จากทั้งหมด 94 สาขา), Mega Home 4 สาขา (จากทั้งหมด 14 สาขา), และ Home Pro ในมาเลเซีย 7 สาขา (จากทั้งหมด 7 สาขา), ที่ต้องปิดบริการชั่วคราว ii) ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ทำสถิติต่ำสุดใหม่ท่ี 39.6 ในเดือนสิงหาคม 2564 และ iii) อัตราการว่างงานยังคงสูงอยู่ที่ 1.9% ใน 2Q64  ส่งผลให้ SSSG ในงวด 9M64 อยู่ที่ +2.4% (สมมติฐานปีน้ีของเราที่ 0%) เราไม่คิดว่า HMPRO จะเปิดสาขาใหม่ในไตรมาสน้ี ทำให้จำนวนสาขารวมอยู่ที่ 115 สาขา (108 สาขาในประเทศไทย และ 7 สาขาในประเทศมาเลเซีย)

อัตรากำไรอ่อนแอ

เราคาดว่า GPM ใน 3Q64 จะอยู่ที่ 25.3% (-0.5ppts YoY, +0.1ppts QoQ) ส่งผลให้ GPM ในงวด 9M64 อยู่ที่ 25.4% (+0.3ppts YoY) ใกล้เคียงกับสมมุติฐานปี 2564 ของเราที่ 25.3% ทั้งนี้อัตรากำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะมีการปิดสาขาร้านชั่วคราว (ทำให้สัดส่วนยอดขายสินค้าผ่านช่องทาง e-commerce เพิ่มข้ึน ซึ่งสินค้าที่ขายผ่านช่องทางน้ีมักจะมี margin ต่ำ) ในขณะที่คาดว่าค่าใช้จ่าย SG&A จะอยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท (-5%YoY, -4%QoQ) คิดเป็นสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่ 19.0% โดยที่ EBIT margin อยู่ที่ 10.1% (จาก 12% ใน 3Q63 และ 11.4% ใน 2Q64) เนื่องจากมีการใช้มาตรการ lockdown บางส่วน

ธุรกิจกำลังฟื้นตัวและเรายังคงประมาณการกำไร 2564-65 เอาไว้เท่าเดิม

เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวข้ึนตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป จากปัจจัยฤดูกาล และการผ่อนคลายมาตรการ lockdown หลังจากที่มีการกระจายวัคซีนออกไปในวงกว้าง ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2564- 65 เอาไว้เท่าเดิม โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2564-65 จะเพิ่มข้ึน 2%YoY และ 12%YoY ตามลำดับ

Valuation & action

เราคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ท่ี 15.00 บาท อิงจาก PER ท่ี 34.0x (P/E เฉลี่ยของ GLOBAL และ HMPRO+0.5S.D.) ราคาหุ้นน่าจะสะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานท่ีอ่อนแอในปีน้ีไปมากแล้ว ในขณะที่มองว่า ประมาณการกำไรยังมี upside จากการกลับมาเปิดประเทศมากกว่า downside ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก

- Advertisement -