ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index เพิ่มขึ้น 0.17 จุด (+0.01%) ปิดที่ระดับ 1,415 จุด ดัชนีผันผวนในกรอบแคบ ตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ,นักลงทุนขายทำกำไรหุ้น อิเล็กฯ และไฟแนนซ์ แต่ยังมีแรงซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า ซึ่งมี Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบลดลงช่วยประคอง

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

ประเมิน SET แกว่งตัวกรอบ 1,405 – 1,430 จุด แม้จะได้แรงหนุน US bond yield อ่อนตัวลงจากคาดการณ์ FED จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังยอดขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนและตัวเลข CPI , PPI ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามราคาน้ํามันดิบที่ทรุดตัวลงแรงจากความกังวล เศรษฐกิจสหรัฐและจีนชะลอตัวจะกดดันให้ดัชนีผันผวน

กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy

  • GULF GPSC BGRIM TASCO SCGP อานิสงส์ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง
  • PSL TTA อานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น
  • MTC SAWAD KTC AEONTS ASK อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง

หุ้นแนะนำวันนี้

  • GPSC (ปิด 47.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 57.40 บาท) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ํามันดิบร่วงแรง ส่งผลดีต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของ GPSC ขณะเดียวกันยังได้ผลบวกจาก US Bond yield ที่ลดลง และเป็นหุ้นในกลุ่ม โรงไฟฟ้าท่ีไม่ได้ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI
  • EPG (ปิด 7.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 9.25 บาท) ได้ประโยชน์โดยตรง จากราคาน้ํามันดิบลดลง ขณะที่ผลประกอบการ 2Q67 (มิ.ย.- ก.ย.) มีกําไรสุทธิ 431 ล้านบาทเพิ่มข้ึน 41%qoq และ 12%yoy สูงสุดในรอบ 9 ไตรมาส สะท้อน งบผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนแนวโน้มดังกล่าว

บทวิเคราะห์วันนี้

BEM, BJC, WHA, WHAUP, MOSHI (Prompt Act), BCPG (Prompt Act)

ประเด็นสําคัญวันนี้

(-) น้ํามันดิบ WTI ร่วงทําจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน กังวลอุปสงค์ลดลงหลัง ตัวเลข ศก.จีนและสหรัฐอ่อนแอ: ราคาน้ํามันดิบ WTI ลดลง 3.76$ (-4.9%) ปิดที่ 72.9$/bbl จีนรายงานราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองใหญ่ลดลง 0.38% ในเดือน ต.ค. ลดลงมากสุดในรอบ 8 ปี, สหรัฐ การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.6% ใน เดือน ต.ค. และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายสูงสุดในรอบ 3 เดือน

(+) นักลงทุนมั่นใจ 99.7% คาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.5% ใน การประชุมเดือน ธ.ค.: ข้อมูลจาก Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนมั่นใจ 99.7% คาดเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการ ประชุมเดือน ธ.ค.และคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในการประชุมปีหน้า ก่อนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก 0.25% ในเดือน พ.ค.ปีหน้า

(+) สัปดาห์หน้าติดตามสภาพัฒน์ประกาศ GDP 3Q23 ตลาดยังมองบวกคาด ขยายตัว 2%: เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดให้ความสําคัญเพราะจะเป็นตัวชี้วัดถึงภาวะ ศก. ไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วหรือยังเบื้องต้น Bloomberg Consensus คาด GDP 3Q23 ของไทยจะขยายตัว 2% โตขึ้นจาก 1.8% ใน 2Q23 สอดคล้องกับฝ่ายวิจัยของธนาคารกรุงศรีฯ คาดว่าจะขยายตัว 2% เช่นกัน

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+) “จุลพันธ์” เผยร่างพ.ร.บ.กู้เงินดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่เสร็จ ปัดปักธงล้มโครงการ มั่นใจเดินหน้าต่อ

(+) ที่ประชุมทูตพาณิชย์-ภาคเอกชน ร่วมประเมินตัวเลขการส่งออกของไทย เบื้องต้นในปี 2567 ว่าจะขยายตัว 1-2% ที่มูลค่าราว 2.87 แสนล้านดอลลาร์

สหรัฐ

(-) ดัชนีการผลผลิตรวมภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. ปรับลง 0.6%mom ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ -0.3%

(-) ดัชนีตลาดการเคหะ (Housing Market Index) (HMI) จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (National Association of Home Builders (NAHB)) ลดลง 6 จุดสู่ระดับ 34 จุดในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่ ตลาดคาดการณ์ และ เดือนก่อนหน้าที่ระดับ 40

(-) การรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจําสัปดาห์ส้ินสุดวันที่ 11 พ.ย. เพิ่มขึ้น 13,000 คน เป็น 231,000 สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 220,000

ยุโรป

(-) ยุโรป – การคํานวณข้อมูลจากสมาคม Entsog และการเปิดเผยตัวเลขการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านยูเครนรายวันของก๊าซพรอม – การส่งออกก๊าซธรรมชาติทาง ท่อเฉลี่ยรายวันจากรัสเซียไปยังยุโรปลดลงสู่ระดับ 82.5 ล้านลูกบาศก์เมตรในช่วง 1 – 15 พ.ย. จาก 88.4 ล้านลูกบาศก์เมตรในเดือนต.ค. ขณะที่ยอดรวมการส่งออกก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังสหภาพยุโรป (EU) 1 – 15 พ.ย. ผ่านท่อส่งเตอร์กิช สตรีมและยูเครนแตะ 1.2 พันล้านลูกบาศก์เมตร

เอเชีย

(+) ฟิลิปปินส์ – แบงก์ชาติฟิลิปปินส์ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 6.50% ตามคาด

(+) อินเดีย – รัฐบาลอินเดียปรับลดภาษีลาภลอยน้ํามันดิบลงสู่ระดับ 6,300 รูปี (75.70 ดอลลาร์) ต่อตัน จากเดิม 9,800 รูปีต่อตัน และปรับลดภาษีลาภลอย น้ํามันดีเซลลงสู่ระดับ 1 รูปีต่อลิตร จากเดิมที่ 2 รูปีต่อลิตร

 

- Advertisement -