บล.บัวหลวง: 

Eastern Polymer Group (EPG TB / EPG.BK)

EPG – แนวโน้ม 2H23/24 เติบโตแข็งแกร่ง

การเติบโตของยอดขาย, อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมที่สูงขึ้น, และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น จะหนุนการเติบโตของกำไรสุทธิใน 2H23/24 และในปี 2023/24 ของ EPG และน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น นอกจากนั้น Valuation ยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ รวมทั้งมีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรของตลาด หากบริษัทสามารถทำได้ตามเป้า

แนวโน้มกำไร 2H23/24 เติบโตทั้ง YoY และ HoH

ผลการดำเนินงานของทุกธุรกิจทั้งธุรกิจฉนวนกันความร้อน (AEROFLEX), ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ (AEROKLAS], และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (EPP) มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น YoY และ HoH ใน 2H23/24 (ต.ค. 2023 – มี.ค. 2024) หนุนโดยการเติบโตของยอดขาย, อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมที่สูงขึ้น, และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น สำหรับภาพรวมปี 2023/24 (เม.ย. 2023 – มี.ค. 2024) EPG ยังคงเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ที่ราว 10% YoY (1H23/24 เติบโต 3% YoY)และอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ที่ 31-33% (1H23/24 อยู่ที่ 32.2%)

AEROFLEX-ยอดขายเติบโตแข็งแกร่งพร้อม GM สูง

บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2023/24 ของ AEROFLEX ไว้ที่ 8-10% YoY และอัตรากำไรขั้นต้น (GM) ที่ 43-45% (มีแนวโน้มว่า GM จะสูงกว่าเป้าหมาย โดยในช่วง 1H23/24 GM อยู่ที่ 46.6%) หนุนโดยอุปสงค์ที่เติบโตดีทั้งในไทยและสหรัฐฯ, การขยายตลาดใหม่ เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, การออกผลิตภัณฑ์ใหม่, และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

AEROKLAS-ยอดขายมีแนวโน้มเติบโตกว่าคาด

บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2023/24 ของ AEROKLAS เป็น 12-15% YoY (จากเดิมที่ 8-10%) และอัตรากำไรขั้นตัน (GM) ที่ 30-33% หนุนโดยการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์, การออกผลิตภัณฑ์ใหม่, และผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของบริษัทย่อยในออสเตรเลีย

EPP-แนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

บริษัทปรับลดเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 2023/24 ของ EPP เป็น 5% YoY (จากเดิมที่ 10-12%) และปรับลดเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้น (GM) เป็น 15%(จากเดิมที่ 16-18%) เนื่องจากยอดขายกล่องอาหารลดลงและการแข่งขันที่สูง ส่งผลให้บริษัทต้องใช้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดขาย

Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจ

Valuation อยู่ในระดับที่สนใจ โดยตลาดคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 24% YoY (EPS ที่ 0.48 บาท) ซึ่งคิดเป็น PER ปี 2024 ที่ 15.0 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวอยู่ -1SD) และ PEG จะอยู่เพียง 0.6 เท่า เรามองเป็นระดับน่าสะสม อย่างไรก็ตามความเสี่ยงที่สำคัญเป็นเรื่องภาพเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก หากเศรษฐกิจชะลอตัวอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อยอดขาย และ GM

Bloomberg Consensus: ตลาดมองราคาเป้าหมายเฉลี่ย 8.33 บาท (ช่วง 7.60-11.60 บาท) และให้คำแนะนำซื้อ 75% ถือ 25%

Technical view: ราคาหุ้น breakout แนวโน้มเป็นขาขึ้น แนวรับ 6.80-7.00 แนวต้าน 8.00-8.50 (ตัดขาดทุน 6.50)

- Advertisement -