บล.กรุงศรีฯ

BANGKOK EXPRESSWAY AND METRO (BEM TB/ BEM.BK)

BEM – ยังคงเป็นหุ้นที่มีประเด็นการเติบโต (TP Bt10.5, BUY)

กลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์
หุ้นBEM
มูลค่าพื้นฐาน10.50
คำแนะนำBUY

เรายังคงคําแนะนําซื้อ BEM แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 10.50 บาท จาก 11.50 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกําไรลง เพราะปริมาณรถใช้ทางด่วนฟื้นตัวช้าลง และค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะปรับลดประมาณการกําไรลง แต่เรายังคงคาดว่ากําไรในปีนี้จะยังโตสูงถึง 39% yoy แบและจะคาดว่าจะโตได้ 22% CAGR ในช่วงปี 2024-25 ทั้งนี้ ราคาหุ้นคิดเป็น 36x ของ PE ปี 2023 แต่จะลดลงเหลือเพียง 24x ใน ปี 2025 ซึ่งถือว่าไม่แพง

ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงบวกเล็กน้อย

เรากลับออกจาก conference call ของ BEM เมื่อบ่ายวานนี้ด้วยความรู้สึกบวกเล็กน้อยกับแนวโน้มของบริษัท โดยประเด็นสําคัญที่ได้มีดังนี้ (i) ปริมาณการจราจร ทั้งส่วนของทางด่วน และรถไฟฟ้าน่าจะเพิ่มขึ้นทั้งคู่ในปี 2024 จากปี 2023 โดยเฉพาะในส่วนของรถไฟฟ้า ถึงแม้ว่าปริมาณรถใช้ทางด่วนจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยอมรับว่าปริมาณรถจะยังไม่กลับไปถึงระดับก่อน COVID ในปี 2019 จากหลายปัจจัย ทั้งนโยบาย hybrid WFH และจํานวนนักท่องเท่ียวต่างชาติที่ฟื้นตัวช้า แต่ในทางกลับกัน จํานวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าน่าจะทําสถิติสูงสุดใหม่ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15-20% ในปี 2024 นอกจากนี้ ประมาณการอัตราการเติบโตของบริษัทยังมี upside อีกจากการเปิด โครงการใหม่ ๆ ตามแนวรถไฟฟ้าในปี 2024 อย่างเช่น One Bangkok และ Dusit ฯลฯ (ii) บริษัทคาดว่าจะได้งานโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และทางด่วนชั้นที่สองในปี 2024 ทั้งนี้ เนื่องจากอุปสรรคที่ขัดขวางการเซ็นสัญญารถไฟฟ้าสายสีส้มอย่างเป็นทางการอยู่ที่คดีความที่ BTS ยื่นฟ้องผู้บริหาร และคณะกรรมการของ รฟม. ซึ่งปัจจุบัน เหลือเพียงคดีเดียวที่ยังคาอยู่ที่ศาลปกครองสูงสุด (iv) จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าหากบริษัทได้งานสองโครงการใหญ่ คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม และทางด่วนชั้นที่สองในปี 2024 โดยแต่ละโครงการต้องใช้เงินลงทุน 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อส้ินงวด 3Q23 สัดส่วนหน้ีสินสุทธิ/ทุนอยู่ที่ 1.7x และบริษัทคาดว่าสัดส่วนนี้จะไม่ขึ้นไปเกินกว่า covenant ที่ 2.5x จนถึงปี 2027 ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น บริษัทคาดว่าจะมีเงินสดจากการดําเนินงานมากพอที่จะมาช่วยสนับสนุนการลงทุนในโครงการได้

ปรับลดประมาณการกําไรปี 2023-24 ลง

เนื่องจากกําไรในงวด 9M23 คิดเป็น 70% ของประมาณการกําไรเต็มปีของเรา ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกําไรปี 2023 และ ปี 2024 ลง 9.5% เพื่อสะท้อนถึงปริมาณรถใช้ทางด่วนที่ต่ำเกินคาด และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น  ซึ่งเมื่ออิงตามประมาณการใหม่ เราคาดว่า EPS ปีนี้จะโต 39% และจะโต 22% CAGR 22% ในช่วงปี 2024-25 สําหรับโครงการใหม่ เราใส่แค่เพียงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพียงโครงการเดียวไว้ในประมาณการของเรา

คงคําแนะนําซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 10.50 บาท จากเดิม 11.50 บาท

เรายังคงคําแนะนําซื้อ BEM แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 10.50 บาท จากเดิม 11.50 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกําไรลง ทั้งนี้ เรามองว่า BEM ยังเข้าข่ายเป็นหุ้นที่มีประเด็นการเติบโต โดยราคาหุ้นคิดเป็น PE ปี 2023 ที่ 36x และกําลังลดลง

- Advertisement -