บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
TOA PAINT (THAILAND) (TOA TB)
โมเมนตัมบวก 4Q23-1Q24 รับ High Season
- กําไรปกติ 3Q23 -14% q-q, +68% y-y อยู่ที่ 594 ล้านบาท ขณะที่ทิศทาง 4Q23-1Q24 เป็นบวก ตาม High Season การขายวัสดุก่อสร้าง
- ปรับเพิ่มประมาณการปี 2023-2025 สะท้อนอัตรากําไรขั้นต้นสูงกว่าคาด
- ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2024 ที่ 29.50 บาท Upside เปิดกว้าง ยังแนะนําซื้อ
กําไรปกติ 3Q23 ลดลง q-q แต่เร่งขึ้นดี y-y ใกล้เคียงคาด
TOA รายงานกําไรสุทธิ 3Q23 เท่ากับ 651 ล้านบาท (-12% q-q, +84% y-y) หากไม่รวมรายการพิเศษหลักๆจากกําไรอัตราแลกเปลี่ยน กําไรปกติที่ 594 ล้านบาท (-14% q-q, +68% y-y) โดยยอดขายทรงตัว q-q และ +7% y-y ที่ 5.4 พันล้านบาท หนุนจากยอดขายในประเทศ +11% y-y (85% ของยอดขายรวม) ตามปริมาณขายสูงขึ้น ซึ่งชดเชยยอดขายในเวียดนามที่ -26% y-y (7% ของยอดขายรวม) จากเศรษฐกิจซบเซา ส่วนอัตรากําไรขั้นต้นเกณฑ์ดี 33.8% ขยับลงเล็กน้อยจาก 34.5% ใน 2Q23 จากต้นทุน Oil-linked สูงขึ้นในเดือนก.ย. และเงินบาทอ่อนค่า แต่ปรับขึ้นจาก 27.9% ใน 3Q22
ยอดขายในประเทศเป็ นแรงหนุนการเติบโตหลัก ท่ามกลางต้นทุนทรงตัว
ผู้บริหารมั่นใจต่ออุปสงค์ในประเทศที่มีโมเมนตัมเป็นบวกใน 4Q23-1Q24 จาก High Season ของการขายวัสดุก่อสร้าง อย่างไรก็ดี ยอดขายในต่างประเทศเน้นประคองตัว โดยเฉพาะเวียดนามที่หดตัวแรง y-y ขณะที่ปี 2024 มีมุมมองระมัดระวังจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก โดยตั้งเป้ายอดขายขยายตัว 8% y-y (จากปี 2023 ที่คาดจบไม่ตํ่ากว่า +8% y-y) แรงขับเคลื่อนหลักมาจากในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม Repaint บวกกับคาดหวังการฟื้นตัวของต่างประเทศจากฐานตํ่า ด้านต้นทุนวัตถุดิบทรงตัว โดยตั้งเป้าอัตรากําไรขั้นต้นระดับ 33-34% ใกล้เคียงกับ 2H23
ปรับเพิ่มประมาณการปี 2023-2025 จากอัตรากําไรขั้นต้นฟื้ นดีกว่าคาด
เราปรับสมมติฐานหลักปี 2023-2025 โดยปรับยอดขายลงสะท้อนเวียดนามฟื้นช้ากว่าคาด แต่ปรับเพิ่มอัตรากําไรขั้นต้นจากสัดส่วนการใช้ TiO2 จากจีน (ราคาตํ่ากว่าสหรัฐฯ) สูงขึ้นเป็น 35% จาก 8% ใน 4Q22 ส่งผลให้ประมาณการกําไรปกติปี 2023-2025 เพิ่ม 8-14% เป็น 2.55 พันล้านบาท (+52% y-y), 2.6 พันล้านบาท (+2% y-y) และ 2.7 พันล้านบาท (+3% y-y) ตามลําดับ โดยกําไรปกติ 4Q23 เบื้องต้นคาด 600-650 ล้านบาท ขยายตัว q-q, y-y จากการเร่งขึ้นของยอดขายตามปัจจัยฤดูกาล อย่างไรก็ดี อัตรากําไรขั้นต้นคาดอ่อนลงเล็กน้อย q-q อยู่ที่ 33.0-33.5% (เทียบกับ 33.8% ใน 3Q23 และ 29.1% ใน 4Q22) หลังราคานํ้ามันปรับขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าในเดือนก.ย-ต.ค.
ปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย 29.50 บาท Upside เปิดกว้าง คงคําแนะนําซื้อ
เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2024 ที่ 29.50 บาท อิง PER 23x (ค่าเฉลี่ย-1.5SD) สะท้อนการเติบโตชะลอลง ราคาหุ้นปรับลง 17% ใน 3 เดือน ปัจจุบันเทรดบน PE2024 ที่ 17.2x หรือค่าเฉลี่ย-2.5SD และมี Upside เปิดกว้าง จึงยังแนะนําซื้อ บริษัทประกาศแผนซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.96% ของหุ้นทั้งหมด ไม่เกิน 1.5 พันล้านบาท ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ 20 พ.ย. 2023-17 พ.ค. 2024 เป็นบวกเชิงจิตวิทยา
Investment thesis
TOA ถือเป็นหนึ่งในผู้นําในการผลิตและจําหน่ายผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวในประเทศและเป็นที่ยอมรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงเวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และมาเลเซีย ด้วยประสบการณ์ของผู้ก่อตั้งในแวดวงมากกว่า 58 ปี จุดแข็งของ TOA คือมีแบรนด์และเครือข่ายการจัดจําหน่ายที่แข็งแกร่ง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่ที่สุดในประเทศราว 48.7% โครงสร้างรายได้ในปี 2022 จากการขายส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร คิดเป็น 60.2% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 35.8% มาจากผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิว และ 4% มาจากผลิตภัณฑ์อื่น หากพิจารณาตามภูมิภาค รายได้มาจากประเทศไทย 83.4%, เวียดนาม 9.1% และประเทศอื่น 7.5%
Company profile
TOA ก่อตั้งในปี 1964 เริ่มต้นจากการนําเข้าสีจากประเทศญี่ปุ่น และต่อมาในปี 1977 จัดตั้งในประเทศไทยเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและเปิดตัวแบรนด์ TOA ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารและสารเคลือบผิว โดยจําหน่ายผลิตภัณฑ์ ผ่านเครือข่ายการจัดจําหน่ายที่ครอบคลุม ได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านค้าโมเดิร์นเทรด และช่องทางอื่นๆ (ลูกค้าโครงการ การส่งออก และบริษัทที่เกี่ยวข้อง)
Catalysts
ปัจจัยหนุนการเติบโตคือ 1) การเติบโตของอุปสงค์ในประเทศตามเศรษฐกิจและการบริโภค 2) การฟื้นตัวของยอดขายต่างประเทศจากฐานตํ่า 3) การปรับลงของต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะ TiO2 และ Oil-linked และ 4) การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
Risks to our call
ความเสี่ยงต่อประมาณการ 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกําลังซื้อช้ากว่าคาด 2) การฟื้นตัวของยอดขายต่างประเทศตํ่ากว่าคาด โดยเฉพาะเวียดนาม 3) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และค่าเงินบาท 4) การแข่งขันรุนแรง
