บล.ฟิลลิป

ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น– SAWAD จะเคลียร์ทุกอย่างให้จบในปีนี้

Key Point

3Q66 มีผลขาดทุนจากการขายรถยึดจำนวนมาก เนื่องจากการปรับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ และเร่งยึดรถในช่วงที่ผ่านมา และ 4Q66 จะยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง แต่จะน้อยกว่า 3Q66 และการรับรู้รายได้จากเงินสดทันใจ รวมไปถึงจะเป็นไตรมาสที่ปล่อยสินเชื่อได้ดี ทำให้คาดว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้น y-y และ q-q การตั้งสำรองที่จะสูงต่อเนื่องในปี 67 ทำให้ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไร และปรับลดราคาพื้นฐานเหลือ 51 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

ปรับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ และเร่งยึดรถ ทำให้มีผลขาดทุนรถยึดจำนวนมากใน 3Q66

ทาง SAWAD ได้มีการปรับมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อ โดยมีการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมาตั้งแต่เดือน ม.ค. มีการลด LTV ในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อชดเชยดอกเบี้ยที่เก็บได้ลดลงจากการควบคุมของสคบ. นอกจากนี้ยังมีการเร่งจัดการลูกค้าที่มีปัญหา โดยมีการเร่งยึดรถจากลูกค้าที่มีปัญหามาตั้งแต่เดือน มิ.ย. และมีการเร่งประมูลขายออกไปหลังจากนั้น ส่งผลให้ใน 3Q66 มีผลขาดทุนรถยึดจำนวนมาก และทำให้จะเป็นต้องมีการตั้งสำรองเพื่อรองรับผลขาดทุนดังกล่าว

เร่งเคลียร์ทุกอย่างให้จบในปีนี้

ใน 4Q66 จะยังคงมีผลขาดทุนรถยึดสูงต่อเนื่องไปอีก จากการเร่งเคลียร์รถยึดที่ยึดเข้ามา ซึ่งจะทำให้การตั้งสำรองยังคงสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนรถยึด รวมไปถึงการตั้งสำรองจะไม่สูงเท่ากับใน 3Q66 นอกจากนี้ปกติไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่สินเชื่อเติบโตสูง ทำให้คาดว่าผลประกอบการของ SAWAD ใน 4Q66 จะเพิ่มสูงขึ้นทั้ง y-y และ q-q

รับรู้กำไรจากเงินสดทันใจเต็มไตรมาส

SAWAD ได้ซื้อหุ้นเงินสดทันใจคืนจาก ธ. ออมสิน และได้มีการโอนสินทรัพย์ของเงินสดทันใจมาที่ SAWAD ตั้งแต่ 30 มิ.ย. ทำให้ใน 2Q66 จะยังไม่มีการรับรู้รายได้จากเงินสดทันใจ แต่ใน 3Q66 ได้มีการรับรู้รายได้เต็มไตรมาส ทำให้มีกำไรออกมาที่ 1.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 17% y-y และ 21% q-q

ปรับลดประมาณการกำไรปี 67 และปรับลดราคาพื้นฐาน

ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 66 ไว้เหมือนเดิมที่ 5.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 13.1% y-y แต่การตั้งสำรองที่ยังอาจจะสูงต่อเนื่องไปในปี 67 ทำให้ปรับลดประมาณการกำไรปี 67 ลงมาเหลือ 5.4 พันลบ.จากเดิมที่คาดไว้ที่ 5.6 พันลบ, ยังคงเพิ่มขึ้น 7.1% y-y และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผล 2.15 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.9% เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่คาดว่าจะมีการจ่ายปันผล 2 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 4.6% จากการปรับลดประมาณการกำไร ทำให้ราคาพื้นฐานปรับลดลงด้วยเหลือ 51 บาท จากเดิม 53 บาท ยังคงมีส่วนต่างเหลืออยู่พอสมควร จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงในการแข่งขันของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย
  2. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
  3. ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า
- Advertisement -