บล.ฟิลลิป:

นอร์ทอีส รับเบอร์ – NER คาด 4Q66 กำไรเพิ่ม q-q

Key Point

คาด 4Q66 รายได้พื้นตัว q-q จากด้านราคาขายเฉลี่ยและปริมาณ ทำให้มีกำไรสุทธิดีขึ้น q-q แม้กำไรสุทธิทั้งปี 66 อาจอ่อนตัว y-y จากราคายางที่ปรับตัวลง แต่คาดว่าผ่านจุดต่ำไปแล้ว ปีหน้าราคาขายเฉลี่ยควรปรับตัวดีขึ้นขณะที่ NER ตั้งเป้าปริมาณขายเพิ่มขึ้น y-y เล็กน้อย จากมีลูกค้าญี่ปุ่นรายใหญ่ Approve โรงงานผ่านแล้ว มองกำไรสุทธิปี 67 เติบโต y-y ได้ ราคาพื้นฐานที่ 5.66 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

4Q66 กำไรดีขึ้น q-q

คาด 4Q66 ขายยางได้ราว 1.25 แสนตัน +/-9 y-y รวมทั้งปีขายประมาณ 4.95 แสนตัน ใกล้เคียงเป้าที่ 5 แสนตัน ราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น q-q จากราคายางที่ปรับตัวขึ้นใน 3Q66 ที่ผ่านมา ช่วยให้ GPM ดีขึ้น q-q แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่เฉลี่ยสต๊อกเดิมทำให้ต้นทุนเพิ่มน้อยกว่าราคาขาย กำไรสุทธิดีขึ้น q-q

ปี 67 ตั้งปริมาณขายสูงขึ้นเล็กน้อย

ปี 67 ตั้งเป้าปริมาณขาย 5 แสนตัน เนื่องจากยังไม่มีกำลังผลิตใหม่เพิ่ม แต่คาดราคาขายเฉลี่ยจะดีขึ้นกว่าปี 66 ราว 5% คาดราคายางผ่านจุดต่ำในช่วงปี 66 ไปแล้ว และ NER มีสร้างโรงงานใหม่ กำลังผลิตเพิ่มเป็น 818,000 ตัน/ปี จากเดิมที่ 515,600 ตัน/ปี คาดยอดขายเห็นในช่วงต้นปี 68 กำลังผลิต ส่วนที่เพิ่มจะทยอยเพิ่มในปี 68 ที่ 50% และปี 69 อีก 50%

กลยุทธ์ปี 67

ปัจจุบันลูกค้าญี่ปุ่นรายใหญ่ Approve โรงงานผ่านแล้วแสดงถึงโรงงานมีระดับมาตรฐาน สามารถรองรับลูกค้ามาตรฐานสูงได้อย่างยุโรปและญี่ปุ่น ภาพปี 67 อาจเห็นลูกค้ารายนี้เป็นยอดขายต่างประเทศสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมี GPM สูงกว่าการขายในประเทศ และจะหาลูกค้าใหม่จากยุโรปและญี่ปุ่นเข้า Approve โรงงานมากขึ้น เพื่อซัพพอร์ตกำลังการผลิตใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ NER ขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ของไทยและของโลกได้ ส่วนภาพเศรษฐกิจในปีหน้าจะมีเลือกตั้งใหญ่ในสหรัฐฯปลายปี คาดเห็นนโยบายเศรษฐกิจโลกดีขึ้นเพื่อรักษาคะแนนเสียง และอุตฯ EV Car ในจีนยังเติบโตได้จากรัฐบาลยังมีการสนับสนุนเรื่องภาษี ปัจจุบันปริมาณขายรถเติบโตขึ้นทุกภูมิภาค ความต้องการล้อยางในจีนยังเพิ่มขึ้นทั้ง TBR (TruckBus and Radial tire) และ PCR (Passenger Car Radial tire)

ทำ ESG ให้สอดคล้องกลยุทธ์

ปีนี้มีทำโครงการตอบโจทย์ ESG เพิ่มขึ้น 2 โครงการ คาดว่าผลการประเมินปีหน้าจะดีขึ้นจากปัจจุบัน ที่อยู่ระดับ A และปี 67 ตั้งงบอีก 100 ลบ. ทำโครงการ ESG คลอบคลุมถึงผู้มีส่วนได้เสียในกิจการสอดคล้องไปกับไทยที่กำลังยกระดับ ESG เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนด EUDR และไทยถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญและยกระดับได้เร็วกว่าอินโดนีเซีย เวียดนามและไอเวอรี่โคสต์ ซึ่ง NER ทำแผน ESG ให้สอดคล้องไปกับกลยุทธ์ของบริษัทและทิศทางของประเทศ

ราคาพื้นฐานปี 67 ที่ 5.66 บาท/หุ้น อิง P/E 6.2 เท่า

ทางฝ่ายฯประเมินราคาหุ้น โดยใช้ P/E เฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี +0.5 S.D. ที่ 6.2 เท่า โดยปรับคาดการณ์กำไรปี 67 ลง จากยังคงปริมาณขายปี 67 อยู่ระดับเดิม ปรับราคาพื้นฐานปี 67 ลงที่ 5.66 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นยังมีมี upside ค่อนข้างดี คงคำแนะนำ”ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของราคาวัตถุดับ
  2. ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
  3. ความเสี่ยงจากการใช้สินค้าทดแทน
- Advertisement -