Daily View

เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ร่วงลงแรง 1.6% นักลงทุนกังวลต่อความขัดแย้งในสภาคองเกรส เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ที่อาจถูกขัดขวางจากสภาบน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเช้านี้ทางประธานาธิบดีสหรัฐ Joe Biden ได้อนุมัติเพิ่มเพดานหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยคะแนนเสียงจากสภาบน 65-35 โดยหน่วยงานของภาครัฐจะสามารถมีงบประมาณใช้จ่ายถึงวันที่ 3 ธ.ค. ปัจจัยที่กดดัน Dow Jones เมื่อคืน เช้านี้น่าจะผ่อนคลายได้ สังเกตได้จาก Nikkei ที่ไม่ได้ปรับตัวลดลงแรง (-0.3%) ส่วนปัจจัยอื่นๆยังไม่มีอะไรมีนัยยะต่อการลงทุนมากนัก เชื่อว่าตลาดจะรอดูการฟื้นตัวของผลประกอบการและเศรษฐกิจ หลังวันนี้เริ่มการผ่อนคลายที่มากขึ้น รวมถึงการติดเชื้อหากผ่านไปราว 14 วันการติดเชื้อยังไม่เร่งตัวขึ้นต่อ จะถือเป็นบวกต่อการลงทุน คาด SET วันนี้แกว่งในกรอบ 1597 – 1610 เมื่อวานนี้มีจังหวะของการปรับฐานลงมา 0.7% อย่างไรก็ตาม ในภาพระยะกลางยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะ สำคัญ ยังเชื่อว่าทิศทางการลงทุนในช่วง 4Q21 จะเป็นภาพของการฟื้นตัว หลังคลาย Lock Down พร้อมกับรัฐบาลได้เริ่มเผยว่าจะเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าว กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรใช้การปรับฐานเป็นโอกาสสะสมเพื่อรอรับปัจจัยบวกในช่วงถัดไป โดยยังแนะทยอยสะสมใน Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ร้านอาหาร (M) สนามบิน (AOT)

Stock Pick

SCCC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 207 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q21 ที่ 663 ล้าน บาทต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส จากยอดขายลดลง และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น แต่จะเห็นการเพิ่มขึ้นของกำไรใน 4Q21 จากการฟื้นตัวของภาคการก่อสร้าง และแนวโน้มที่ดีขึ้นในตลาดอาเซียนหลังการคลายล็อกดาวน์

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 7.70 บาท) มีมุมมองเชิงบวกต่อการเข้าซื้อทรัพย์สินของ MACO มูลค่า 640 ล้านบาท โดยจะทำให้ค่าตอบแทนซึ่งเดิมบริษัทต้องจ่ายให้กลุ่ม MACO ภายใต้สัญญาบริหารจัดการการตลาดและ ขายสื่อโฆษณา ลดลงเหลือเพียง 250 ล้านบาทต่อปี จากเดิม 700 ล้านบาทต่อปี ซึ่งหากการซื้อทรัพย์สินเสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค. ปี 2565 จะทำให้ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของ PLANB ในปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่า 20%

- Advertisement -