รับแรงลบช่วงวันหยุด / 1,370-1,390

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัว Sideways อิงทางลง: แรงกดดันสำคัญจากความกังวลศก.จีน หลังมูดี้ส์ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพ โดยระบุถึงการขยายตัวทางศก.ที่ชะลอลงในระยะกลางและความเสี่ยงจากวิกฤตครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาฯของจีน ขณะที่ด้าน Dollar Index ที่แข็งค่าทดสอบระดับ 104.09 คาดเป็นแรงกดด้นต่อ Fund Flow ของ SET Index นอกจากนี้ ความกังวลภาวะศก.จีน การแข็งค่าของ Dollar Index รวมถึงการที่ตลาดมีความไม่มั่นใจต่อการปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจของโอเปก ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 1% ปิดที่ $72.32 ต่อบาร์เรล ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี มองทางลงของ SET Index จำกัด หลังครม.สัญจรเห็นชอบ easy e-receipt เริ่มวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท/คน สำหรับคนที่เงินเดือนเกิน 7 หมื่นบาท และเงินเก็บเกิน 5 แสนบาท ด้านดิจิทัลวอลเลตนายกฯ เผยจะส่งหนังสือสอบถ้ามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาถึงการออกพ.ร.บ.กู้เงินฯ ภายในสิ้นสัปดาห์นี้  ทั้งนี้การเห็นชอบ/ความคืบหน้าดังกล่าว คาดเป็นแรงหนุนต่อหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและเกี่ยวเนื่อง อีกทั้งคาดจะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่อยู่ใน SETESG หลังก.ล.ต.ได้รับคำขออนุมัติจัดตั้งกองทุนรวม TESG ชุดแรก 22 กองทุน โดยจะเสนอขายพร้อมกันในวันที่ 8 ธ.ค. นอกจากนี้ SET Index ยังได้แรงหนุนในเชิง Sentiment ท่ามกลางความคาดหวังของตลาดว่า เฟดจะปุรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังสหรัฐฯเผย JOLTS ลดลง 6.17 แส่นตำแหน่ง สู่ระดับ 8.73 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับตำสุด นับตั้งแต่เดือนมี.ค.64 ส่วนคืนนี้ติดตามการรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของเดือน พ.ย.จาก ADP เพื่อจับสัญญาณภาคแรงงานของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 1.29 แสนตำแหน่ง จาก 1.13 ตำแหน่งในเดือน ต.ค.
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ม.รัฐ+ท่องเที่ยว: ADVANC, BA, BEM, CBG, CPN, CRC, MAJOR, KTC, OR 2) Anti-com.: BCPG, BGRIM, GPSC, GULF, SCC 3) เก็ง SET50/100: ITC, KCE,SAPPE, SISB และ 4) FTSE SET Mid Cap: CPNREIT, ERW, SJWD

ปัจจัยบวก

  • ครม.สัญจรจ.หนองบัวลำภู เห็นชอบสนับสนุนตัดอ้อยสดคุณภาพดี 8 พันลบ.ล้ำนบาท โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด 120 บาท/ตัน คาดจะมีชาวไร่อ้อยเข้าร่วมโครงการประมาณ 1.4 แสนราย
  • โฆษกรัฐบาลเผย 15 ธ.ค. ก.เกษตรฯ จะประกาศในราชกิจจาฯ ในการปรับเปลี่ยนจากที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรได้ ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแล้วแปลว่าซื้อขายได้และเป็นสินทรัพย์ ในการค้ำประกันกับสถาบันการเงินได้ ช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
  • ผู้ว่าการ PBOC ให้คำมั่นว่า PBOC จะรักษาการเติบโตของปริมาณเงินทุนหมุนเวียนในระบบให้มีเสถียรภาพ  และเพิ่มการสนับสนุนภาคส่วนต่างๆ ที่สำคัญ เช่น อุตฯ เทคโนโลยี และการผลิตขนสูง พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจีนมีความมุ่งมันที่จะยกระดับคุณภาพสินเชื่อ
  • จีนเผยดัชนี PMI ภาคบริการของเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ 51.5 ในเดือนพ.ย. จาก 50.4 ในเดือนต.ค.

ปัจจัยลบ

  • ปร.มูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล เผยศก.ไทยกำลังติดอยู่ในกับดักการเติบโตต่ำ แม้ว่าขณะนี้ศก.จะอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งต่ำอย่างต่อเนื่องยาวนาน
  • สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เผยการที่ศก.โลกและไทยเติบโตในลักษณะครึ่งๆ กลางๆ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่าเรื่องวิกฤติ ซึ่งการเติบโตแบบนี้ จะทำให้การดำเนินนโยบายในการดูแลศกไม่ชัดเจน ก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดต่างๆ ซึ่งทำให้การคาดการณ์ด้านการลงทุนของธุรกิจต่างๆยากขึ้นไปด้วย
  • JPMorgan เผยตลาดหุ้นกำลังเข้าใจผิดว่าศก.สหรัฐฯ อยู่ในช่วง Soft Landing แต่ในไม่ช้ำนักลงทุนจะตระหนักได้ว่าแนวโน้มนั้นมืดมนกว่าที่พวกเขาคิด ซึ่งทำให้เกิดการขายหุ้นออกมา
  • Spotify ได้ส่งอีเมลถึงพนักงาน โดยระบุว่าบริษัทจะดำเนินการปลดพนักงานอีกประมาณ 17% เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเพิ่งปลดพนักงานไป 6% เมื่อเดือนม.ค

PICKS OF THE DAY

KCE BUY

  • เป้าหมาย 56.50 / 57.50 แนวรับ 53.50
  • หุ้นใหม่เข้า SET50: KCE เป็นอีก 1 หุ้น ที่มีโอกาสเข้าดัชนี SET50 ในรอบ 1H67 มองว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนที่อิงดัชนี ออกจากหุ้นที่หลุด SET50 เข้ามาในหุ้น KCE ตามสัดส่วน Market Cap. ขณะภาพของไตรมาส 4 ยังแข็งแกร่ง
  • มอง 4Q66 ทำกำไรสูงสุดในปี: มอง 4Q66 รายได้ดีขึ้น q-q จากอัตรา กำลังผลิตที่ดีขึ้น และยังมี Backlog ของสินค้า HDI ที่ค้างส่งจาก 3Q66 คาดว่าจะส่งได้ทันใน 4Q66 ส่วนต้นทุนยังมีแนวโน้มลดลงอยู่ ซึ่งจะช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น มองว่า 4Q66 จะทำกำไรได้สูงสุดในปี

KTC BUY

  • เป้าหมาย 48.50 / 49.50 แนวรับ 46.00
  • เข้า High season ของการจับจ่าย: ช่วงไตรมาส 4 ปกติจะเป็น High season ของการจับจ่าย รวมไปถึง High season ของการท่องเที่ยว คาดว่าจะทำให้มีการใช้จ่ายผ่านบัตร รวมไปถึงมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น และจะทำให้สินเชื่อ รวมไปถึงรายได้ค่าธรรมเนียมของ KTC เติบโต
  • NPL ต่ำ สำรองสูง: KTC มี NPL ณ สิ้น 3Q66 อยู่ที่เพียง 2.3% ของสินเชื่อทั้งหมดเท่านั้น เป็นระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่ม นอกจากนี้ยังมีสำรองสูงมาก โดยมีสูงถึง 443%
- Advertisement -