บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
AIRPORTS OF THAILAND (AOT TB) Business as usual
- มาตรการล่าสุดในการ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ ไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีกำไร บัญชีกำไรขาดทุน
- แม้ว่าจะมีการยกเลิกเที่ยวบินจากจีน เรายังคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนจะฟื้นตัวจาก 35% ของระดับก่อนโควิดในเดือน ต.ค. เป็น 40-50% ภายในเดือน ม.ค. 24 และ 52-60% ในปี 2024
- คงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาเป้าหมายปี FY24 ที่ 76 บาท (DCF)
ให้ผู้ประกอบการมี credit term ชั่วคราวและบางส่วน
ราคาหุ้นของ AOT ปรับตัวลงแรงถึง 12% หลังรายงานผลประกอบการ 4QFY23 เราเชื่อว่าความกังวลดังกล่าว เกิดจากมาตรการในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่ได้รับสัมปทานโดย AOT ได้ให้ระยะเวลาในการชำระเงิน (Credit terms) สำหรับส่วนต่างระหว่างการรับประกันรายได้ขั้นต่ำ กับส่วนแบ่งรายได้เป็นเวลา 6 เดือนในช่วงเดือน พ.ย. 23 ถึง เม.ย. 24 โดยจะให้เป็นการผ่อนชำระรายเดือนได้ 12 เดือน เราไม่มีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมาตรการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีกำไรขาดทุน และแม้ว่าประเด็นดังกล่าวอาจกระทบกระแสเงินสด เราเห็นว่าผลกระทบดังกล่าวจะอยู่แค่ชั่วคราว
คาดตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนจะปรับตัวขึ้น
อีกประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอยู่ที่การยกเลิกเที่ยวบินในเส้นทางไทย-จีน ของผู้ประกอบการสายการบินเป็นจำนวน 39% ในช่วงเดือน ธ.ค. 23 ถึง ม.ค. 24 อย่างไรก็ดีเที่ยวบินที่เหลือยังคิดเป็น 50-59% ของระดับก่อนโควิด ซึ่งชี้ให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนจะปรับตัวขึ้นจาก 35% ของระดับก่อนโควิดในเดือน ต.ค. เป็น 40-50% ในเดือน ธ.ค. 23 และ ม.ค. 24 เราคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนจะพื้นตัวจาก 3.5 ล้านในปี 2023 เป็น 6.0 ล้านในปี 2024 และตัวเลขนักท่องเที่ยวขาเข้ารวมจะโตจาก 28 ล้านในปี 2023 เป็น 35 ล้านในปี 2024 โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในรายงานกลุ่มท่องเที่ยว Tourism Sector report, วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566
การปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) ขึ้น 30 บาท/หัว ไม่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรขาดทุน
AOT ประกาศว่าบริษัทฯ จะปรับ PSC ขึ้น 30 บาทต่อหัว โดยจะเปลี่ยนรายได้ของ Common Use Passenger Processing Systems (CUPPS) ออกจากรายได้บริการเป็น PSC เพราะฉะนั้นรายการดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อผลกำไรขาดทุนของบริษัทฯ โดย AOT วางแผนเพิ่ม PSC หลังต้นทุนในการดำเนินงานปรับขึ้นและหลั้งการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ในเดือน ก.ย. 23 ซึ่งน่าจะเป็น Upside ให้แก่ประมาณการของเรา
ปรับลดประมาณการกำไรปกติ ปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยบวก
เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี FY24-25 ลง 21-30% เพื่อสะท้อนการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนที่ช้ากว่าคาดและได้ราคาเป้าหมายปี FY24 ใหม่ที่ 76 บาท (DCF) สมมติฐานใหม่ของเราชี้ว่าตัวเลขผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศน่าจะฟื้นตัวเป็น 85% และ 89% ของระดับก่อนโควิดใน FY24 ตามลำดับ และแตะระดับก่อนโควิดในปี FY25 AOT มีการซื้อขายที่ 30x ของค่า FY25E PIE (เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 36x) ตัวเลขผู้โดยสารต่างประเทศได้กระโดดเพิ่มเป็นประมาณ 82% ของระดับก่อนโควิดในเดือน พ.ย. จาก 72% ใน 4QFY23 (ก.ค. – ก.ย.) และแนวโน้มดังกล่าวน่าจะเกิดต่อเนื่อง ปัจจัยดังกล่าวน่าจะช่วยลดความกังวลของตลาดและเป็นปัจจัยบวกให้แก่ราคาหุ้น