Daily Focus: Selective Play

2024 SET Target : 1520

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนบวกได้ตามคาดโดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นทดสอบบริเวณ 1,390 จุด ก่อนจะมีแรงขายออกมาทำให้ดัชนีปิดลบช่วงบวกเหลือ 3.23 จุด ณ สิ้นวัน หุ้นที่หนุนตลาด ได้แก่ AOT PTT ADVANC รวมถึงกลุ่มเรือเทกอง ส่วนกลุ่มที่ถ่วงตลาด คือ PTTEP DELTA เป็นต้น มูลค่าการซื้อขายทรงตัวบริเวณ 3.6 หมื่นลบ.โดยอยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุดของไทย สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆเพียง 9 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิ 979 ลบ. (และ Long Index Futures อีกเล็กน้อย 2.1 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,375-1,390 จุด โดยชดเชยตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ที่ปรับตัวลงแรงพอสมควร ขณะที่เช้านี้เริ่มเห็นการฟื้นตัว ปัจจัยที่กดดันคือแนวโน้มเศรษฐกิจหลายๆประเทศที่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวจากตัวเลขเศรษฐกิจในระยะหลัง ตัวเลขเงินเฟ้อของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น (โตเกียว) เดือน พ.ย. ออกมาต่ำกว่าคาด ตัวเลข Job Openings สหรัฐฯ เดือน ต.ค. น้อยกว่าคาด ทำให้ตลาดคาดว่าในปี 2024 จะเห็นโอกาสปรับลดดอกเบี้ยของหลายๆ ธนาคารกลางมากขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงต่อเนื่อง กดดันกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำ ขณะที่กลุ่มปลายน้ำ และ Anti-Commodity จะได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง ด้าน Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ทยอยปรับลงต่อเนื่องย่อตัวลงแตะ 4.17% แต่ Dollar Index กลับสวนทางพลิกมาแข็งค่า โดยภาพรวมคาดว่าตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนในระยะสั้น และต้องติดตามประเด็น SET50/100 รอบ 1H24 โดยเฉพาะการเข้า-ออกของ DELTA ซึ่งมีผลกับดัชนีค่อนข้างมีนัยยะ และอาจเป็น Downside ต่อ SET Index อย่างไรก็ตาม เรามองการพักฐานแรงราว -10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาและ -17% YTD คาดว่าสะท้อนปัจจัยลบจากการปรับประมาณการกำไรลง และ Valuation ถูก De-rated ไปมากพอสมควร เราจึงยังคาดหวังโอกาสที่ SET Index จะทยอยฟื้นตัวได้ในปี 2024 หนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ขณะที่กองทุน TSEG ที่จะเปิดขายในเดือน ธ.ค. เป็นอีกหนึ่งแรงหนุนดัชนีอ่อนๆ เรายังมองจังหวะพักตัวลงเป็นโอกาสทยอยสะสมเพื่อถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไร 4Q23-2Q24 แข็งแกร่ งและ PER/PBV ต่ำ เทียบกับ Pre-Covid // รอจังหวะสะสมเพิ่มหากดัชนีปรับลงหากรอบล่างในกรณีแย่ของเราที่ 1,300-1,350+-จุด

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค.: CPN, GPSC, SJWD, TIDLOR, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : SJWD

  • แนะนำ “‘ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21.50 บาท
  • ธุรกิจ Automotive รับฝากและบริหารรถยนต์ที่เป็นพระเอกในปี 2023 เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง 40% ใน 4Q23 จะมีรถ BYD เข้ามาใช้พื้นที่ของบริษัทอีกราวหมื่นคัน รวมถึงในปี 2024 ที่จะมีรถ EV เตรียมเข้าไทยอีกหลายค่าย ธุรกิจห้องเย็นมีแนวโน้มดีขึ้นหลังมีสินค้าปลาเข้ามาใช้พื้นที่เพิ่ม
  • เราคาดกำไรปกติ 4Q23 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ และจะมีรายการพิเศษจากการประเมินมูลค่ายุติธรรมซื้อธุรกิจ SCGL คงประมาณการกำไรปี 2023 +50% y-y และปี 2024 +48% y-y และคาดเป็นหนึ่งในหุ้นเป้าหมายของกอง TESG
  • แนวรับ 14-13.80 บาท แนวต้าน 14.80-15//15.60 บาท

Fund Flow : ช่วง 2 วันที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$334 ล้าน เป็นไหลเข้าบางๆ ในวันจันทร์ก่อนพลิกมาไหลออกหนาแน่นพอสมควรวานนี้ เม็ดเงินไหลออกหนาแน่นที่ไต้หวัน US$562 ล้าน แต่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$284 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกจากเวียดนาม US$88 ล้าน แต่ไหลเข้าไทย US$28 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าค่อนไปในทางทรงตัว โดยรอจับตาตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเดือน พ.ย. ปลายสัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) Moody’s ปรับแนวโน้ม Outlook ของ Credit Rating, พันธบัตรรัฐบาลจีนจากระดับ Stable ลงเป็น Negative โดยพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่หนี้ทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจของจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางที่ชะลอลง และการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ Fitch Ratings กล่าวว่าอาจพิจารณาปรับลดอันดับเครดิตของจีนอีกครั้ง แต่ล่าสุด ฟิทช์ยังคงแนวโน้ม stable ส่วน S&P Global Ratings ก็ยังคงแนวโน้ม stable อย่างไรก็ดีวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับลงสะท้อนข่าวดังกล่าวไปแล้ว ส่วนตลาดหุ้นไทยน่าจะผลกระทบ Sentiment ในเชิงลบระยะสั้นบางเล็กน้อย

(+) SFLEX แนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกที่ทรงถึงลงในปีหน้า เป็นบวกกับธุรกิจปลายน้ำอย่าง SFLEX ราคาน้ำมันที่ปรับลงตั้งแต่กลางปี 2022 บวกกับการบริหารจัดการการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ การเจรจากับลูกค้า ทำให้กำไรดีขึ้นเป็นลำดับ ปัจจุบันกำไรดีกว่าช่วงก่อนโควิด Story ปี 2024 นอกจากต้นทุนวัตถุดิบลงแล้ว บริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Starprint Vietnam เราคาดปีละ 30 กว่าลบ. (~13-14% ของกำไร) จากการถือหุ้น 25% Starprint Vietnam อาจเข้ามาไม่ทันในเดือนนี้ เราปรับกำไรปีนี้ลงเล็กน้อย 5% โดยเอ่า Starprint ออกแต่กำไรปี 2023 ยัง น่าจะโตถึง 227% y-y คาดปีหน้าโตต่อ 27% y-y ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) SEAFCO โทนประชุม Opportunity Day เป็นกลาง ผู้บริหารเผยภาพรวมตลาดฐานรากฝั่งอุปสงค์ยังไม่กลับไม่เท่ากับก่อน Covid-19 และยังไม่สมดุลกับอุปทาน ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดยังสูง อย่างไรก็ดี คาดหวังปริมาณงานในตลาดจะมากขึ้นใน 1-2 ปีข้างหน้า โดยปี 2024 แรงผลักดันหลักมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐตั้งแต่กลางปีหน้า เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2023 ขึ้น 31% เป็น 150 ลบ. จากขาดทุน 133 ลบ.ในปี 2022 สะท้อนการปรับขึ้นอัตรากำไรขั้นต้น ขณะที่ปี 2024 คงคาดกำไร 157 ลบ. +5% y-y ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2024 ที่ 3.80 บาท ขณะที่ความชัดเจนงานประมูลภาครัฐ และความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้มจะเป็น Catalyst ยังแนะนำ “ซื้อ”

(0) คาดการณ์หุ้นเข้า-ออก SET50 งวด 1H24 หุ้นออก DELTA INTUCH TLI หุ้นเข้า KCE ITC BCP ประกาศผลกลางเดือน ธ.ค.

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 79.88 จุด หรือ -0.22% ปิดที่ 36,124.56 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค.ปีหน้า

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก โดยตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หลังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มประกัน

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดบวก รีบาวน์หลังจากปรับตัวลดลงในวันจันทร์ ขณะที่ตลาดปรับตามองผลสำรวจสภาพเศรษฐกิจของ BoJ และรายงาน GDP ของออสเตรเลียในวันนี้

(0) ค่าเงินบาท ทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 35.22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.02%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 72.32 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต น้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส ในขณะที่เช้านี้ลบอยู่ที่ระดับ 72.24 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -0.11%

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 2,036.30ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ เมื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2039.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.14%

SPDR Gold Trust ถอื ครองทองคา 878.82/ +0.26%

- Advertisement -