บล.บัวหลวง:

Jaymart Group Holdings (JMART TB / JMART.BK)

JMART – ยังขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ กระตุกใจนักลงทุนระยะสั้น

ยังขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ กระตุกใจนักลงทุนระยะสั้น JMART ร่วมบรรยาย Opp. Day ให้กับนักลงทุนต่างชาติวานนี้ เรามองเป็น “กลาง” เพราะยังไม่เห็นประเด็นที่เป็น Catalysts ต่อราคาหุ้นเพิ่มเติม แต่ภาพรวมระยะยาวคอนเฟิร์มแนวโน้มการฟื้นตัวกลับสู่ฐานกำไรปกติ และมีแนวโน้มจะสร้างฐานใหม่ได้ในช่วง 2ปีต่อจากนี้ ด้วยการขยายตัวที่รวดเร็วของธุรกิจอาหารอย่าง “สุกี้ ตี๋น้อย” ทั้งนี้ แม้ PER ปี 2024 ของ JMART เพียง 15 เท่า ซึ่งใกล้เคียง COM7 แต่อยู่บนความคาดหวังที่สูงมากกว่า (ซึ่งค่อนข้างท้าทาย สำหรับช่วงเวลา นี้) จึงทำให้ในตระกูลเจ JMT น่าสนใจกว่าจากฐานกำไรแข็งแกร่งกว่า

Return of the J-Mart..?

ปี 2023 เป็นหนึ่งปีสุดโหดหินของกลุ่ม JMART แต่ทุกอย่างกำลังจะผ่านไป และไหลเข้าสู่สภาวะปกติ แบบที่ยังไม่ทิ้ง New S-Curve จากธุรกิจใหม่ สำหรับธุรกิจเดิม JMT จะยังเติบโตได้ต่อ (แม้ดีกรีการเติบโตถูกลดความหวังลง) ส่วน SIGNER และ SGC พลิกฟื้นกลับมาได้ดีขึ้น (แต่ยังมีแรงกดดัน) โดยพัฒนาการ ธุรกิจที่สำคัญนอกเหนือการจัดระบบภายใน พบว่ามีการสร้าง Synergy กับธุรกิจภายในกลุ่มคืบหน้าเพิ่มขึ้น เช่น การปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรในกลุ่ม BRR เป็นต้น

แต่ไฮไลท์ New S-curve หลักของกลุ่ม น่าจะเป็น 1) ‘สุกี้ ตี๋น้อย (ถือหุ้น 30%) ที่อยู่ในช่วงขยายสาขาล่าสุดเป็น 50 สาขา และไปต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น พร้อมทำ Loyalty Program 2) ขยาย Ecosystem ผ่าน Partner นอกกลุ่ม ผ่าน J Point/J wallet ซึ่งคะแนน J Point จะสามารถแลกกับคะแนนอื่นๆ เช่น Big C, Air Asia, AIS, K Point, OR และ PTG ทำให้ J Point มีมูลค่าและความน่าสนใจเพิ่มขึ้น

ระยะสั้น 4Q23 คาดหวังการจุดพลุรอบใหม่ ติดเครื่องพร้อมกันของหลายธุรกิจ

แนวโน้มกำไร 4Q23 แม้จะยังอ่อนตัว YoY (หลักๆ จากกลุ่ม SINGER) แต่คาดเห็นการกลับมาฟื้นตัว QoQ ต่อเนื่อง หนุนจาก 1) เป็น High season ของกลุ่มธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ (แต่เราไม่คาดหวัง จากความเสี่ยงจากโอกาสเลื่อนการใช้จ่ายก้อนใหญ่ไปก่อน จากแนวโน้มมีนโยบาย E-Refund) , 2) JMT เข้าHigh season ของการเก็บหนี้, 3) SINGER, SGC ฟื้นตัวต่อเนื่องหลังปรับปรุงระบบงาน และ 4) การเติบโตที่ต่อเนื่องของสุกี้ ตี๋น้อย ซึ่งยังเห็นแนวโน้มที่ดีจากการขยายสาขาใหม่ๆ รวมทั้งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองด้วย

ช่วงนี้เน้นเจ็บตัวน้อย…JMT เป็นช้อยส์ที่ปลอดภัยกว่า

อิงตามประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus ที่คาดกำไรหลักปี 2024 ที่ 1,692 ล้านบาท (+250% YoY จากฐานต่ำในปี 2023) แม้ดูน่าสนใจ แต่หากมองใส้ในพบว่าสัดส่วนกำไรจาก JMT จะอยู่ราว 75% ของทั้งหมด ซึ่งหมายถึงคาดการณ์กำไรของ JMART อยู่บนความคาดหวังการพลิกฟื้นของ SINGER SGC (ที่ผลประกอบการแย่ในปีนี้) รวมทั้งการเติบโตของ สุกี้ ตี๋น้อย

ดังนั้น เราจึงมองว่าเป็นระดับการฟื้นตัวที่ค่อนข้างท้าทายมากกว่า เมื่อเทียบกับการเติบโตของ JMT ที่นักวิเคราะห์ได้ปรับลดความคาดหวังลงมาพอสมควรแล้ว และมองกำไรหลักปี 2024 เติบโตราว 19% YoY ขณะที่ PER ปี 2024 อยู่เพียง 16 เท่า ซึ่งนอกจากต่ำกว่าอดีตที่เฉลี่ย 44 เท่าแล้ว ยังสูงกว่า JMART ที่ 15 เท่า เพียงเล็กน้อยเท่านั้น (แต่คาดการณ์กำไรดูปลอดภัยกว่า และมี Upside จากการขายหนี้ NPL ชิ้นใหญ่มูลค่าราว 50 ล้านบาท ด้วย)

- Advertisement -