ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ต่ำคาด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones คืนปิดลบ 0.2% รับแรงกดดันจากตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงหลังจาก ADP เผยการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 3.8% หลังสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ในสัปดาห์ก่อน

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสถาบัน ADP รายงานการจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือน พ.ย. ที่ 1.03 แสนรายแย่กว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 1.3 แสนราย ในรายละเอียดภายในพบว่าอุตสาหกรรมขนาดเล็กที่มีพนักงานราว 20-49 รายมีการจ้างงานออก 1.6 หมื่นคน ส่วนธุรกิจขนาดกลางที่มีการจ้างงาน 50-249 รายมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 7.1 หมื่นราย โดยอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ ขนส่งสาธารณูปโภค การศึกษา การแพทย์ ส่วนอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานลดลงได้แก่ภาคผลิต ก่อสร้าง และท่องเที่ยว สะท้อนถึง Real Sector ที่ยังอ่อนแอและเป็นตัวชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่แข็งแกร่ง ภายหลังจากทราบตัวเลขดังกล่าวพบว่า US Bond Yield 10 ปีปรับลงต่อเนื่อง และ CME FED Watch ยังให้น้ำหนักสูงราว 96% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมในการประชุมกลางเดือน ธ.ค. แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มตอบสนองทางบวกน้อยลงจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ คาดว่านักลงทุนบางส่วนอาจเริ่มกังวลกับเศรษฐกิจจริงที่ท้ายที่สุดจะส่งผลกับกำไรในช่วงถัดไป

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับฐานกำลังสะท้อนถึง Global Demand ที่อ่อนแอ โดยคืนนี้รอติดตามผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.2 แสนรายและผู้ขอสวัสดิการว่างงาน ต่อเนื่องที่ 1.9 ล้านราย และวันศุกร์รอติดตามการจ้างนอกภาคเกษตรและอัตราการ ว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 1.85 แสนราย และ 3.9% ตามลำดับ

สำหรับในประเทศเช้านี้รอติดตามเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ย.Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.3%YoY -0.1%MoM และเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) +0.6%YoY หากรายงานต่ำกว่าคาดการณ์มองเป็นบวกกับตลาดหุ้นและค่าเงินบาท ขณะเดียวกันจะมีการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ไม่มีคาดการณ์) วันนี้ประเมิน SET INDEX ปรับตัวลงในกรอบ 1380 – 1390 รับแรงกดดันจากกลุ่มน้ำมันและตลาดหุ้น Nikkei ที่เช้านี้ปรับฐานลง 0.85% เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะทยอยสะสมเช่นเดิมจากระดับ Valuation ที่ไม่แพง เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อสาร (ADVANC) สินค้า IT (COM 7) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่วน Trading ระยะสั้นแนะนำ BDMS ICHI SAWAD TIDLOR

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)

คาดว่ากำไรจะโตต่อเนื่องในไตรมาส 4/23 พร้อมกับคุณภาพสินเชื่อที่ยืดหยุ่นดีในครึ่งหลังปี 2023 ซึ่งจะเอื้อให้บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2024-25 ลงได้ ขณะที่คาดว่ากำไรจะโต 6.6% YoY สำหรับทั้งปี 2023 และโตอย่างมั่นคงในระดับ 21.7%/21.1% ในช่วงปี 2024-25 หนุนจาก NII และเบี้ยประกันที่สูงขึ้น บวกกับค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง

ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท)

มองบวกต่อภาพรวมไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มชาพร้อมดื่ม และคาดการณ์ว่าอัตราการดำเนินงานจะเพิ่มเป็น 73% ในปี 2023 และ 75% ในปี 2024 จาก 60% ในปี 2022 กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 328 ล้านบาท (+71%YoY, +28%QoQ) สูงเป็นประวัติการณ์

- Advertisement -