Our View? ”ฟื้นตัวในกรอบจำกัด”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,600 /1,590 และแนวต้านที่บริเวณ 1,615 / 1,620 คาดตลาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากการที่ ปธน.โจ ไบเดน ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหา Government Shutdown ไปจนถึงช่วงต้นเดือน ธ.ค. อีกทั้งเราคาด ทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงจะขานรับปัจจัยบวกจากการที่หุ้นบริษัท Merck & Co ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้ยา molnupiravir เป็นกรณีฉุกเฉิน หลังผลทดลองพบมีประสิทธิภาพในการต้านไวรัส COVID-19 ได้ในทุกสายพันธุ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาผู้ติดเชื้อและยับยั้งการแพร่ระบาด รวมท้ังลดความ % กังวลของผู้คนเกี่ยวกับ COVID-19 คาดจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโลก รวมท้ังมีแนวโน้มให้หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศต้อนรับการท่องเที่ยวอีกครั้งในระยะถัดไป
อย่างไรก็ตามคาดตลาดในภูมิภาคอาจได้รับแรงกดดันบ้าง จากรายงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เตรียมประกาศตอบโต้ หลังจีนไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้า Phase I โดยจีนไม่สามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ในระยะ 2 ปีตามข้อตกลงดังกล่าวได้ คาดจะกระตุ้นความกังวลตลาดต่อความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศกลับมาได้อีกคร้ัง
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ย. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงปรับตัวขึ้น +0.85 ดอลลาร์ ปิดท่ี 75.88 ดอลลาร์/บาร์เรล (+1.13%) คาดยังคงได้รับปัจจัยบวกจากจีน เตรียมสั่งซื้อน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ จากวิกฤตขาดแคลนพลังงานของจีน อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามการประชุม OPEC+ ในวันน้ี (4/10/64) คาดจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. หากเป็นไปตามที่ตลาดคาด เรามองราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ คาดจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ
สำหรับราคาถ่านหินยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดราคาถ่านหิน Newcastle เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ 228 ดอลลาร์/ตัน +10.0 ดอลลาร์ (+4.59%) โดยได้รับแรงหนุนจากวิกฤตขาดแคลนพลังงานในจีน เช่นกัน คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มถ่านหิน อาทิ BANPU ปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศเราคาดตลาดหุ้นไทยยังคงถูกจำกัด Upside จากสถานการณ์น้ำท่วมท่ียังมีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง คาดจะกดดันตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มนิคมท่ีพื้นที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบเชิงลบ อาทิ ROJNA และ NNCL แต่มองเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาทิ DRT, DCC และ TASCO คาดจะเป็นปัจจัยให้ตลาดในช่วงนี้ผันผวนแกว่งตัวออกด้านข้างได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “DCC”
ผลการดำเนินงานกลับมาดีขึ้นใน 4Q/64 ทั้งจาก Pent Up Demand และความต้องการจากกลุ่มซ่อมสร้างหลังสถานการณ์น้ำท่วม ก่อนเข้าสู่ช่วง High Season ใน 1Q/65 รวมทั้งคาดผลประกอบการปี’65 มีโอกาสทำ New High ต่อเนื่องจากปี’64 จากความต้องการที่จะกลับมาปกติ ประเมินราคาเป้าหมาย (ปี’65) 4.10 บาท อิง PE 20X
กลยุทธ์ แนวรับ 2.88 / 2.84 Target 3.08 / 3.34 Stop <2.82