Reopening plays: ติดตาม เมอร์ค (Merck) จะร้องขอคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบสหรัฐฯอนุมัติใช้ยา molnupiravir หลังพบว่าหลังให้ยาเม็ด 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 5 วัน แก่คนไข้ที่เพิ่งตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 สามารถลดความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Reopening plays ในสหรัฐฯ ฟื้นตัวแรงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาได้แก่ Airline (+6.3% DoD), Hotel Resturants & Leisure (+2.6% DoD), Energy (+3.3% DoD), Bank (+1.9% DoD) และ Consumer Finance (+3.3% DoD) เป็นต้น
Energy sector: ติดตามผลการประชุม OPEC+ ในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. ว่าจะมีการทบทวนมติในเดือน ก.ค. ที่ทางกลุ่มจะเพิ่มกำลังการผลิตเดือนละ 400,000 bpd จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ยังต่ำกว่าก่อนโควิด-19 ที่ 5.8m bpd หรือไม่เพื่อช่วยชะลอไม่ให้ราคาน้ำมันขึ้นเร็วเกินจนกระทบการฟื้นตัวของอุปสงค์ ทั้งนี้ทางกลุ่มประเมินว่าตลาดน้ำมันดิบจะอยู่ในภาวะ deficit 1.1m bpd ปีนี้ ก่อนที่จะเป็น surplus 1.4m bpd ปีหน้า
ติดตามทิศทางราคาถ่านหิน หลังเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางการจีนผลักดันให้เหมืองถ่านหินของรัฐเร่งผลิตถ่านหินแม้จะเกินโควตาที่กำหนดไว้เพื่อแก้ปัญหาไฟขาด ทั้งนี้ผลผลิตถ่านหินของจีนในปี 2020 และ 8M21 ของจีนอยู่ที่ 3,840 ล้านตัน (+3.8% YoY) และ 2,600 ล้านตัน (+4.4% YoY) ตามลำดับ ขณะที่ปริมาณนำเข้าถ่านหินของจีนใน ปี 2020 อยู่ที่ 304 ล้านตัน (+1.3% YoY) แต่ลดลงใน 8M21 เหลือ 197 ล้านตัน (-10.3% YoY) จากปัญหาข้อพิพาทกับออสเตรเลีย
Dry bulk sector: ติดตามทิศทางดัชนี BDI ที่บวก 12% WoW ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีที่ 5,202 จุด โดยปัจจัยผลักดันหลักคือการที่จีน และอินเดียมีแนวโน้มที่จะนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนไฟในจีน และระดับสต๊อกถ่านหินในอินเดียที่ทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี
Industrial estate: เวียดนามจะเริ่มคลายล๊อกดาวน์ตั้งแต่ 1 ต.ค. โดยอนุญาตให้เปิดกิจการต่างๆ ได้ เช่น นิคมอุตสาหกรรม, โครงการก่อสร้าง, ห้างสรรพสินค้า, ร้านตัดผม, การให้บริการที่พัก, ร้านอาหารที่ลูกค้าซื้อกลับไปรับประทาน มองเป็น sentiment เชิงบวกกับ CRC, AMATA และ WHA เป็นต้น
มุมมองตลาดหุ้น วันนี้คาด SET 1610-1620 หุ้นแนะนำ AWC และ CK
1) AWC (ราคาพื้นฐาน 6.55 บาท) คาดว่ากำไรผ่านจุดตำสุดใน 3Q21 และมีแนวโน้มดีขึ้นใน 4Q21 และมองบวกในระยะยาว โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์และมีแผนเปิดเมืองต่อเนื่องใน 4Q21 ถือเป็นหุ้นกลุ่ม reopening ที่ราคายังตำกว่าระดับระลอก4 และก่อนเกิดโควิด
2) CK (ราคาพื้นฐาน 29.79 บาท) คาดหวังการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ backlog จาก 2.84 หมื่นลบ. ในไตรมาส 2/2564 เป็น 2.34 แสนลบ. ในครึ่งแรกของปี 2565 ทั้งนี้ราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้น กระทบต้นทุนงานก่อสร้างของบริษัทจำกัดจาก backlog ในมือที่มีอยู่ไม่มากเทียบกับอุตสาหกรรม ขณะที่โครงการที่จะได้มาใหม่จะมีการปรับเรื่องราคาเหล็กตามราคาตลาดระดับหนึ่ง
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ติดตาม ตัวเลข Factory order ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +1% MoM และการประชุม OPEC+
วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยเดือน ก.ย. การประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% ตัวเลข Markit Service PMI ของยูโรโซนเดือน ก.ย. คาด 56.3 จุด (-4.6% MoM) ตัวเลข Trade balance ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -$70bn ตัวเลข ISM non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด -2.8% MoM เป็น 60 จุด และถ้อยแถลงของ BOJ Gov Kuroda และ ECB President Lagarde
วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Factory order ของเยอรมัน เดือน ส.ค. คาด -1.5% MoM ตัวเลข Construction PMI ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด +8.9% MoM เป็น 48.6 จุด ตัวเลข Retail sales ของยุโรปเดือน ส.ค. คาด +0.8% MoM ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ โดย ADP เดือน ก.ย. คาด +4.3 แสนตำแหน่ง และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ วัน
พฤหัสฯ ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.ย. และตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯรายสัปดาห์คาด 3.44 แสนคน
วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข Caixin Service PMI ของจีนเดือน ก.ย. คาด +4.9% MoM เป็น 49 จุด ตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +4.6 แสนตำแหน่ง ตัวเลขอัตราการว่างงานของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 5.1% ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด +4.6% YoY และตัวเลข Wholesale inventories ของสหรัฐฯเดือน ส.ค. คาด +1.2% MoM