บล.บัวหลวง:
Healthcare – ชอบหุ้นผู้นำในแต่ละกลุ่มย่อย (NEUTRAL)
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลของประเทศไทย แนวโน้มระยะยาว เช่น ประชากรที่มีอายุยืนยาว การขยายตัวของเมืองที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับกลุ่มรายได้ระดับปานกลางที่สูงขึ้น โรค NCDs และโรคที่ซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จะหนุนอุปสงค์ด้านการดูแลสุขภาพ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ลงชั่วคราวก็ตาม หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆได้ปัจจุบัน ธีมเมกะเทรนด์จะหนุนราคาหุ้น เราแนะนำซื้อ BDMS และ BCH สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในการเติบโตระยะยาว
กลุ่มโรงพยาบาลจะเติบโตแม้จะมีความท้าทายก็ตาม
เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวจาก 2.3% ในปี 2566 มาอยู่ที่ 3.4% ในปี 2567 (มุมมองของเรา) สิ่งนี้จะนำไปสู่รายได้ที่ใช้แล้วทิ้งที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์กลุ่มโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และการดูแลสุขภาพ คาดว่ารายจ่ายด้านการรักษาพยาบาลของไทยจะอยู่ที่เพียง 4.32% ของ GDP ในปี 2566 ตามการคาดการณ์ของตลาด Statista ซึ่งค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 10.4% ซึ่งหมายความว่ายังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเติบโตตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 11.23 ล้านคน หรือ 17% ของประชากรทั้งหมดในปีนี้ โดยสัดส่วนของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปคาดว่าจะสูงถึง 32% ภายในปี 2583 ซึ่งจะนำไปสู่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในการจัดการโรคเรื้อรัง และการบริการดูแลระยะยาว
การขยายตัวของเมืองพร้อมกลุ่มรายได้ระดับปลานกลางที่สูงขึ้น
จากข้อมูลของธนาคารโลกในปี 2565 พบว่า 52.9% ของประชากรไทยอาศัยอยู่ในเขตเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชากรไทยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง รายได้ที่ใช้แล้วทิ้งที่เพิ่มขึ้นมักนำมา ซึ่งอุปสงค์การบริการด้าน สุขภาพี่ดีขึ้น เมื่อพิจารณาจากโรงพยาบาลของรัฐที่ให้บริการที่ด้อยคุณภาพโรงพยาบาลเอกชนจึงมองเห็นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากผู้อยู่อาศัยในเมืองโรค NCDs และโรคที่ซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น การเสียชีวิตกว่า 70% ในประเทศไทยเกิดจากโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ที่ป้องกันได้ เช่น โรคหัวใจและเบาหวาน ภาระในระบบการรักษาพยาบาลนั้นหนักหนาโดยจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสำหรับอาการเหล่านี้เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่านับตั้งแต่ปี 2528 จำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโรคหัวใจปรับตัวสูงขึ้นจาก 63 มาอยู่ที่ 618 รายต่อ 100,000 รายในช่วงเวลาเดียวกัน ในขณะที่โรคเบาหวานปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 33 มาอยู่ที่ 586 รายเช่นเดียวกัน
ประเทศไทย” ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ด้วยอัตราการเติบโตของ CAGR ที่ 11%
ประเทศไทยกลายเป็นผู้เล่นหลักในแวดวงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระดับโลก โดยถึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านรายทุกปี เพื่อแสวงหาการรักษาพยาบาลคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง การทำหัตถการในประเทศไทยอาจมีราคาถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยที่ยังคงรักษามาตรฐานการดูแลไว้ในระดับสูง ประเทศไทยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณวุฒิและมีประสบการณ์จำนวนมาก ซึ่งหลายรายได้รับการฝึกอบรมในต่างประเทศและพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง โรงพยาบาลและคลินิกในประเทศไทยเพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานขั้นสูงเทียบได้กับประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งง่ายต่อการค้นหาการรักษาสำหรับอาการทางการแพทย์เกือบทุกประเภท ตั้งแต่การทำหัตถการทางทันตกรรมตามปกติไปจนถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อน เช่น การทำบายพาสหัวใจ นักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์สามารถผสมผสานการรักษาพยาบาลเข้ากับวันหยุดพักผ่อนในประเทศที่สวยงาม ซึ่งขึ้นซื้อในเรื่องชายหาด วัดวาอาราม และอาหารอร่อยๆ
การเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เป็นแนวโน้มสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ทั่วโลกจะมีมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2578 (CAGR ที่ 11%) ซึ่งเทียบเท่ากับ 11 ล้านล้านบาท (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 32 บาท) ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
การเติบโตกับสู่สภาวะปกติ
เราคาดการณ์เบื้องต้นว่ากำไรหลักปี 2567 ของกลุ่มโรงพยาบาลจะอยู่ที่ 2.56 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY หนุนโดยโรงพยาบาลทั้งหมด เราคาดกำไรหลักปี 2567 สำหรับ BCH ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YOY และ 1.2 พันล้านบาทสำหรับ CHG เพิ่มขึ้น 11% YoY เรามีมุมมองเชิงบวกตต่ออุปสงค์การบริการทางการแพทย์และค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลจะยังคงเติบโตในทศวรรษหน้า ซึ่งจะได้รับแรงหนุนจาก 1) การเติบโตของกลุ่มโรงพยาบาลแม้จะมีความท้าทาย 2) ประชากรที่อายุยืนยาวขึ้น 3) การขยายตัวของเมืองพร้อมกลุ่มรายได้ระดับปลานกลางที่สูงขึ้น 4) โรคไม่ติดต่อและโรคที่ซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น และ 5) ความนิยม ที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์