ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดีกว่าคาด แต่ไม่เปลี่ยนมุมมองดอกเบี้ย
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 1.27% นักลงทุนขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นปรับขึ้นหลายวันก่อนหน้า ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.59% แรงหนุนหลักยังมาจากการโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขเศรษฐกิจได้แก่ (1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB พบว่าออกมาที่ 110.7 ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 104.6 ได้แรงหนุนจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นกับสภาพธุรกิจและความพร้อมในการทำงาน ขณะเดียวกันมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับตลาดแรงงานและรายได้ส่วนบุคคลมีมุมมองที่เป็นลบน้อยลง นอกจากนี้แผนการซื้อรถยนต์ บ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่เพิ่มขึ้น (2) ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯรายงานออกมาที่ 3.8 ล้านหลังคาเรือน ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3.77 ล้านหลังคาเรือนอย่างไรก็ตามหลังจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พบว่านักลงทุนดูจะมิได้กังวลใดๆมากนักเกียวกับนโยบายการเงิน เนื่องจากยังคงเห็นอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปี ที่ปรับลงต่อเนื่อง Dollar Index ที่ยังคงแนวโน้มอ่อนค่า ราคาทองคำที่ปรับขึ้น และ CME FED Watch ยังไม่ปรับเปลี่ยน มุมมองมากนักคงน้ำหนักระดับสูงราว 87% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิมและอีก 13% ให้น้ำหนักปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สำหรับการประชุม FED ช่วงปลายเดือน ม.ค. 24 ปัจจัยติดตามคืนนี้ได้แก่ GDP 3Q22 ครั้งสุดท้ายของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus คา ไวที 214 แสนราย
วันนี้ประเป็น SET INDEX ปรับตัวลงในกรอบ 1390 – 1400 รับแรงกดดันจากการปรับฐานของตลาดหุ้น Dow Jones และเช้านี้ Nikkei แกว่งลบ 1.4% สร้างจิตวิทยาเชิงลบต่อ SET INDEX ประกอบกับ SET INDEX ก็ฟื้นจากจุดต่ำสุดขึ้นมาแล้ว 3% จึงเสี่ยงเผชิญแรงขายทำกำไร อย่างไรก็ตามมองเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยน่ากังวลตลาดยังอยู่ในจุดคลายกังวลกับดอกเบี้ยของธนาคากลางสหรัฐฯ เชิงกลยุทธ์หากปรับฐานมองเป็นโอกาสสะสมมากกว่าจากระดับ Valuation ที่น่าสนใจ เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มการเงิน (TIDLOR SAWAD) อสังหาฯ (AP SPALI)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
AP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท)
เราคงมุมมองบวกว่า AP จะโต 7.9% YoY ในปี 2024 โดยบริษัทรายงานว่าจะเปิดตัวโครงการใหม่ 23 แห่งมูลค่ารวม 3.57 หมื่นล้านบาท (+35.6% YoY) ในไตรมาส 4/23 ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้น backlog สิ้นปี 2023 ขึ้นได้
ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท)
มองบวกต่อภาพรวมไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มชาพร้อม ดื่มและคาดการณ์ว่าอัตราการดำเนินงานจะเพิ่มเป็น 73% ในปี 2023 และ 75% ในปี 2024 จาก 60% ในปี 2022 กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 328 ล้านบาท (+71%YoY, +28%QoQ) สูงเป็นประวัติการณ์