บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
SISB ประมาณการ 3Q64F: กำไรจะแผ่วลง
Event
ประมาณการ 3Q64 และอัพเดตแนวโน้มของบริษัท
lmpact
คาดว่ากำไรใน 3Q64F จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ
หลังจากท่ีผลประกอบการ 1H64 ออกมาแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท (+115.6% YoY) เราคาดว่าผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักของ SISB ใน 3Q64 จะแผ่วลงทั้ง YoY และ QoQ โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 36 ล้านบาท (-15.5%YoY, -44.3%QoQ) ทั้งนี้บริษัทได้มีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ 7 ล้านบาทจากการยุบเลิกโรงเรียน Singapore International School เอกมัยไปใน 3Q63 ขณะท่ีผลการดำเนินงานโดยรวมที่อ่อนแอลงเนื่องจาก i) รายได้ค่าอาหารและกิจกรรมลดลงเนื่องจากการเรียนออนไลน์ และ ii) ได้รับผลกระทบบางส่วนจากการเริ่มให้ส่วนลดค่าเล่าเรียนตั้งแต่เดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของ SISB น่าจะยังได้แรงหนุนจากโครงสร้างนักเรียนในปัจจุบัน ท่ีมีระดับประถมและมัธยมเพิ่มข้ึน (>66% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด) ซึ่งจะช่วยพยุงอัตรากำไรของบริษัท และช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่าย แม้ว่ารายได้จากค่าอาหารและกิจกรรมจะลดลงในช่วงท่ีเกิดสถานการณ์โรคระบาด สำหรับใน 3Q64F เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 228 ล้านบาท (-13.0% YoY, – 15.3% QoQ) ในขณะท่ีคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 42.9% (จาก 50.5% ใน 2Q64 และ 38.6% ใน 3Q63) ซึ่งเมื่ออิงตามประมาณการของเรา กำไรสุทธิของ SISB ใน 3Q64F และในงวด 9M64F จะคิดเป็น 18.2% และ 86.2% ของประมาณการกำไรปีน้ีของเรา ตามลำดับ
ริเริ่มโครงการ “Halving Project” เพื่อจับกลุ่มนักเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ
ในอนาคตบริษัทมีแผนจะขยายหลักสูตรภาษาอังกฤษ (EP) สำหรับนักเรียนในโรงเรียนเอกชนไทยประมาณ 2 แสนคน (ประมาณ 10% ของนักเรียนในโรงเรียนเอกชน) ที่ใช้หลักสูตร EP ซึ่งจะเป็นตลาดใหม่ของ SISB โดยบริษัท จะสร้างโมเดลใหม่ของโรงเรียนอินเตอร์ ใช้ชื่อว่าโครงการ “Halving Project” เพื่อจับตลาดในกลุ่มนี้ด้วยอัตราค่าเล่าเรียนในระดับที่รับได้ระหว่าง 1.5 ถึง 3.0 แสนบาท สำหรับตลาดในกลุ่มน้ี เรามองบวกกับแนวโน้มของ SISB ถ้าหาก platform ธุรกิจน้ีประสบความสำเร็จ
แนวโน้มยังคงเป็นบวกเหมือนเดิม
ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรสุทธิจะโตในอัตราที่ลดลงในปี FY64-65F แต่เราคาดว่ากำไรของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เมื่อผลกระทบจากโรคระบาดลดลง เราคาดว่ากำไรใน 2H64 และในปี 1H65 จะยังคงถูกฉุดโดย i) การให้ส่วนลดค่าเล่าเรียน 5%-15% สำหรับภาคเรียนที่ 1 (สิงหาคม-ธันวาคม 2564) และ ii) ไม่มีการข้ึนค่าเล่าเรียนในปีการศึกษาใหม่ (สิงหาคม 2564–มิถุนายน 2565) ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2564F เอาไว้ที่ 25.2% YoY และปี 2565F ท่ี 17.0% YoY
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 10.70 บาท (อิงจาก P/E ปี FY65F ท่ี 42.7x เท่า กับค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง)
Risks
COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าท่ีคาดไว้ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง