Merry Christmas / 1,390-1,410 

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งตัวออกข้าง : หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุด Christmas ซึ่งจะทำให้ Vol ซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มเบาบางลง ขณะที่ในสัปดาห์นี้ประเด็นหนุนภายในจากที่ประชุม ครม.จะเริ่มมีน้ำหนักน้อยลง เนื่องจากครม.จะเน้นพิจารณาในหัวข้อที่เคยตีตกไปในการประชุมครั้งก่อน เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ จึงมองตลาดจะหุ้นไปให้น้ำหนักภายในกับประเด็นอื่น คือ 1) ของขวัญรับปีใหม่จากรัฐบาลที่จะช่วยหนุนการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอย 2) ความคืบหน้าเงินดิจิทัลที่คาดจะมีการแถลงความคืบหน้าในต้นเดือนมกราคม 3) เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเข้าซื้อกองทุน TESG เพื่อลดหย่อนภาษี คาดจะพยุง Downside ของหุ้น Big Cap และหุ้น High ESG Score 4) ตัวเลขส่งออกนำเข้าไทย ประจำเดือนพ.ย. แนวโน้มโตต่อ คาดส่งออกขยายตัว 5%y-y และเป็นบวกเดือนที่ 4  ขณะที่ตัวเลขนำเข้าคาดขยายตัว 3%y-y หลังตัวเลขกลับมาเป็นบวกได้ต่อเนื่อง 2 เดือน ด้านปัจจัยภายนอกมองตลาดยังให้น้ำหนักกับ 1) ความกังวลการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจจีน หลังบริษัท China Aoyuan Group ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ (Chapter 15) แก่ศาลล้มละลายนิวยอร์ก 2) ความรุนแรงในทะเลแดงที่ยังไม่สงบลง โดยหากสงครามยังคงยืดเยื้อ มีความเป็นไปได้สูงที่อาจลดศักยภาพของธุรกิจขนส่งทางทะเลลงกว่า 20% และมีความเป็นไปได้ที่ต้นทุนการ ขนส่งที่เพิ่มขึ้นอาจกลับเข้ามาซ้ำเติมประเด็นเงินเฟ้อให้กลับมาน่ากังวล โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปที่ต้องขนส่ง LNG ซึ่งเป็นหนึ่งในพลังงานหลักด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น จนอาจทำให้ ECB ต้องกลับมากังวลต่อเงินเฟ้อที่มาจากฝั่งอุปทานอีกครั้ง 3) เงินเฟ้อสหรัฐ Core PCE และ PCE เดือนพ.ย. ออกมาขยายตัวเพียง 3.2% และ 2.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 3.3% และ 2.8% ตามลำดับ สนับสนุนทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเชิง Dovish มากขึ้น ช่วยหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยง จึงมองไม่ได้กดดันบรรยากาศการลงทุนเพิ่มเติม
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) ท่องเที่ยว+ Spending และเกี่ยวเนื่อง: SYNEX, ICHI, SAPPE, CRC, COM7, CPALL, GLOBAL 2) TESG : THCOM, GULF, BCH, WHA, KBANK, SCB 3) Selective : AMATA, PIN, BANPU, SISB

ปัจจัยบวก

  • รฟม.ขยายเวลาให้บริการรถไฟฟ้า MRT ทุกสาย เดินทางข้ามปีถึงตี 2 และขยายเวลาให้บริการที่จอดรถทุกแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและมอบความสุขให้ประชาชน เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2567
  • AOT คาดปีใหม่ 67 ผู้โดยสาร6 สนามบินพุ่ง 2.65 ล้านคน
  • จีนเล็งขอสหรัฐยกเว้นการคว่ำบาตรโร่งงานก๊าซ LNG ของรัสเซียเ นื่องจากบริษัทต่างพยายามป้องกันไม่ให้การจัดส่งเชื้อเพลิงหยุดชะงัก เพิ่มอุปทานกดดันราคา LNG

ปัจจัยลบ

  • จีนเผยอุปสงค์เหล็กกล้าหดตัว 3.3% ในปีนี้ เช่น พิษวิกฤตหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์
  • ONS เปิดเผยตัวเลขป GDP ไตรมาส 3/2566 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.1% ซึ่งย่ำแย่กว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่า GDP ไม่มีการขยายตัว (0%)
  • จีนแบนการส่งออกเทคโนโลยีแปรรูปแร่หายาก เพื่อรักษาสถานะผูกขาดแร่รายใหญ่ของโลก ส่งผลให้ความตึงเครียดกับชาติตะวันตกในเรื่องการควบคุมแร่ธาตุที่สำคัญยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

PICKS OF THE DAY

COM7 BUY
  • เป้าหมาย 24.50 / 25.00 แนวรับ 23.00
  • ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล ในช่วง High Season: โดยมองช่วง 4Q66 เข้าสู่ช่วง High Season รับเทศกาลซื้อของขวัญจับสลากปีใหม่ ขณะที่ต้นปีหน้าได้ประโยชน์จากนโยบาย Easy e-Receipt รับการลดหย่อนภาษีช่วง 1 ม.ค. – 15 ก.พ. ทำให้คาดว่ากำไรในงวด 4Q66 ถึงช่วง 1Q67 จะขยายตัวได้ทั้ง y-y จากยอดขายทั้ง 1,318 สาขา จากทั้ง 75 จังหวัดในปัจจุบัน
  • บาทแข็งค่าช่วยหนุน: ทางฝ่ายมองได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่ำกว่า 35 บาทต่อดอลลาร์ จะช่วยหนุนให้ต้นทุนสินค้านำเข้าถูกลงทางบัญชี

CPALL BUY

  • เป้าหมาย 57.50 / 59.00 แนวรับ 54.00
  • หยุดยาวท่องเที่ยวและจับจ่าย: คาดได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว จากการที่มีสาขาจำนวนมาก (ณ 3Q66 มีจำนวน 14,391 สาขา) อีกทั้ง คาดได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจาก โครงการ 4 Day 4 Gifts for you ของภาครัฐ ขณะที่ในปีหน้าจะมีแรงหนุนจากโครงการ Digital Wallet
  • TESG ยังหนุน: บริษัทเป็น 1 ใน 34 บริษัทที่มีผลประเมินหุ้นยั่งยืนที่ระดับ AAA คาดราคาหุ้นจะยังได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อของกองทุน TESG ในช่วงที่เหลือของปี
- Advertisement -