คาดหวังการซื้อต่อเนื่องของนักลงทุนสถาบัน
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.43% ปัจจัยบวกยังคงมาจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.5% หลังมีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตียังคงโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมามิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ มีความน่าสนใจบางอย่าง อย่างเช่นการปรับลงต่อเนื่องของ US Bond Yield พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index หนุนทองค่าปรับขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวข้างต้นยังคงสะท้อนถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากทางความคิดของนักลงทุน ความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ยังให้น้ำหนักราว 85.5% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยแต่ให้น้ำหนักสูงมากกว่า 70% ที่ FED จะปรับลงดอกเบี้ย 0.25% และอีก 11% คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆ ยังคงให้น้ำหนักกับการเข้ามาซื้อของกองทุน 3 วันทำการย้อนหลังซื้อสุทธิต่อเนื่องรวมแล้วกว่า 2.5 พันล้านบาท โดยเมื่อวานที่ผ่านมาสมาคมนักวิเคราะห์ได้เปิดเผยว่ากองทุน TESG รวบรวมเม็ดเงินเข้ามาได้ราว 3 พันล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ธ.ค.) พร้อมคาดว่าในช่วงที่เหลือ ตั้งแต่ 23 ธ.ค. – 28 ธ.ค. จะมีเม็ดเงินเข้ามาอีก เรายังคงมองหุ้นขนาดใหญ่ที่คะแนน ESG A – AAA มีความน่าสนใจและเป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบันประกอบด้วย (AOT AP CPALL HMPRO KBANK MINT SPALI) คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามมีเพียงคืนพรุ่งนี้กับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.1 แสนราย และในวันพฤหัสช่วงบ่ายธนาคารแห่งประเทศไทยมีกำหนดรายงานเศรษฐกิจไทยช่วงเดือน พ.ย. พร้อมกับดุลบัญชีเดินสะพัด Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งขึ้นในกรอบ 1415 – 1420 เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นแนะนำ Trading ในหุ้นน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ BRT ส่วนลงทุนระยะกลาง – ยาว ยังแนะนำทยอยสะสมได้เช่นเดิมแม้ SET INDEX จะปรับขึ้นมาบ้างแต่ Valuation ยังไม่แพง เน้นสะสมกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ส่งออก (ITC TU) การเงิน (SAWAD TIDLOR)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท)
ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรไตรมาส 4/23 ถึงปี 2024 ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ยขึ้น ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YoY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFD
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)
คาดว่าการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวและค่าตั่วโดยสารไปยุโรปที่กลับสู่ระดับปกติจะเป็น ปัจจัยหนุนสำคัญต่อผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในยุโรป ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นยอดจอง ห้องพักและรักษา ADR ในฐานสูงที่ราว 150/คืนได้ในช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย. 2023 ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวได้ ปัจจุบันเรายังไม่เห็นสัญญาณที่ชี้ถึงภาวะอุปสงค์การเข้าพักที่ชะลอตัวจากราคาค่าห้องที่สูงขึ้นในภาคการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อน
