KS Daily View 27.12.2023 >>> ตลาดสหรัฐปรับขึ้นยกแผง ตลาดได้ sentiment บวก คาด SET ปรับขึ้นในกรอบ 1,400-1,420 จุด หุ้นแนะนำ SPALI

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA +0.43%, S&P 500 +0.42%, NASDAQ +0.54%โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Energy (+0.87%), Real Estate (+0.78%), Industrials (+0.73%) ส่วน Sector ที่ Underperform ได้แก่ Health Care (+0.22%), Communication Services (+0.22%), Consumer Discretionary (+0.35%) เป็นต้น

ในประเทศเมื่อวันจันทร์: SET Index +4.62 จุด หรือ +0.33% ปิดที่ 1,413.45 จุด หุ้นใน SET100 ที่ราคาเพิ่มขึ้นมากสุด ได้แก่ MINT (+5.50%), ACE (+4.08%), BDMS (+2.80%), BH (+2.78%) เป็นต้น ส่วนหุ้นที่ราคาลดลงต่ำสุด ได้แก่ SABUY (-6.42%), JMT (-3.81%), TLI (-3.08%), JMART (-2.79%) เป็นต้น

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,400 – 1,420 จุด คาดตลาดยืนได้เหนือ 1,400 จุดจาก sentiment บวกตลาดสหรัฐปรับขึ้นยกแผงคืนวันอังคาร แต่คาดปริมาณการซื้อขาย SET วันนี้เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศหยุดยาวต่อเนื่องจากวันคริสมาสต์ ส่วนนักลงทุนรายย่อยในประเทศเริ่มหยุดปีใหม่หรือไม่ต้องการถือหุ้นข้ามวันหยุดยาว ในขณะที่ flow กองทุนในประเทศจะช่วยพยุงตลาดทั้งจากเงินทุนใหม่จากกองทุน TESG และการทำ window dressing ซึ่งอาจเริ่มวันนี้ต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของ SET ในปี 2566

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันอังคาร (26 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มกบฏฮูตียังคงโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้ใช้ขีปนาวุธโจมตีเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งในทะเลแดงเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสารเตือนสหรัฐและชาติพันธมิตรให้รีบถอนกองกำลังชุดเฉพาะกิจออกจากทะเลแดงโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ทะเลแดงจะกลายเป็น “ทะเลเพลิง”

2.) ครม.ไฟเขียวต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่จะสิ้นสุดในปี 2566 นี้ ออกไปอีก 1 ปี หรือไปสิ้นสุดในปี 2567 โดยจะทำการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายราคาประเมินทุนทรัพย์ และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อสัญญา คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถเพิ่มการเติบโตของ GDP ที่ 0.5% จากการคาดการณ์ GDP ปี 2567 ที่จะขยายตัวอยู่ที่ 3.2%

3.) ครม. เคาะอุ้มรถสันดาป ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิต “อีโคคาร์ เฟส 1” อีก 2 ปี ถึงสิ้นปี 2568 โดยขยายระยะเวลาการใช้บังคับอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้ารถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน แบบประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลรุ่นที่ 1 (ECO Car Phase 1) ในอัตรา 14% ออกไปอีก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (มาตรการเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 หากไม่ขยายจะกลับไปใช้อัตรา 25%)

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,400-1,440 จุด ในสัปดาห์นี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของ USD หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจนในปีหน้า หนุน Funds flow ไหลเข้าลงทุนในตลาด Emerging market โดยตลาดหุ้นไทยยัง laggard ดัชนี MSCI ACWI มากกว่า 30% YTD นอกจากนี้คาดจะเห็นเม็ดเงินกองทุน Thai ESG เริ่มทยอยเข้าลงทุนหลังจบช่วง IPO และอาจเห็นการทำ window dressing ช่วงปลายปีด้วย สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่เหลือที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท. ขณะที่ประเด็นในต่างประเทศต้องติดตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส รวมถึงการโจมตีเรือสินค้าของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง ซึ่งล่าสุดได้มีการวางกำลังปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งออกแบบมาเพื่อรับรองความปลอดภัยทางการค้าในพื้นที่ทะเลแดง

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • SPALI (ราคาพื้นฐาน 24.60 บาท) Sentiment บวกจากครม.มีมติต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดต่อไปอีก 1 ปี จากสิ้นสุดปีนี้ โดยเป็นการลดค่าจดทะเบียนโอนจาก 2% เหลือ 1% ค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาฯ จาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับกำไร SPALI ไตรมาส 4/2566 เราคาดจะเพิ่มขึ้น อย่างแข็งแกร่งจากระดับที่อ่อนแอในไตรมาส 3/2566 โดยการเปิดโครงการคอนโดใหม่ ศุภาลัย เซ้นส์ ศรีนครินทร์ (มูลค่า 1.0 พันลบ.) ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีความต้องการสูง (ซอยศรีนครินทร์ 40-42) จะช่วยกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 4/2566 ได้เป็นอย่างดี

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธติดตาม ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ Richmond manufacturing index สำหรับเดือนธ.ค. ตลาดคาดที่ -6 จุด ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -5 จุด
  • วันพฤหัสบดีฯ ติดตาม ตัวเลขยอดค้าปลีกของญี่ปุ่น (Retail sales) สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาด +0.3% MoM เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ -1.6% MoM และติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนของธปท. โดยตัวเลขการบริโภคและการลุงทุนภาคเอกชนขยายตัวในเดือนก่อนหน้าที่ 1.7% YoY และ 1.4% YoY ตามลำดับ ขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ จะมีรายงานตัวเลข Pending Home Sales เดือน พ.ย. คาด +0.9% MoM และตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์คาด +210K ทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +205K
  • วันศุกร์เป็นวันหยุดชดเชยวันปีใหม่สำหรับประเทศไทย ส่วนสหรัฐฯ จะมีการรายงานตัวเลข Chicago PMI เดือน ธ.ค. คาด 51 จุด (-8.6% MoM)
- Advertisement -