สรุปภาวะตลาด

วันอังคารท่ีผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนประมาณ 9 จุด จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูงแตะระดับสูงในรอบ 7 ปี หลังจากท่ีกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามที่ตลาดคาด ประกอบกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มขนส่ง และ ICT ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาด ท่ี 1,624.24 จุด +9.76 จุด +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 88,969 ลบ.ต่างชาติ +600.21 ลบ. TFEX +4,031 สัญญา ตราสารหนี้ -144.42 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 311.75 จุด +0.92% นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังราคาหุ้นร่วงหนัก เมื่อวันจันทร์ และดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนก.ย.ช่วยหนุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ และกลุ่มค้าปลีก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มข้ึน 1.31 ดอลลาร์ +1.7% ปิดท่ี 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับกลุ่มโอเปกพลัสมี มติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาด แม้หลายประเทศรวมถึงสหรัฐกดดันให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้เพื่อชะลอการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน

+IATA คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมสายการบินท่ัวโลกจะขาดทุนเกือบ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 ลดลง 78% จากยอดขาดทุนของปีน้ี

+ ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 61.9 ใน เดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ท่ีระดับ 60.0 จากระดับ 61.7 ในเดือนส.ค.

+ครม.ไฟเขียวต้ัง 6 เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษใน “อีอีซี” ดึงลงทุน 3 แสนล้านบาท

+FETCO เชื่อเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทยไตรมาส 4/64 มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท อานิสงส์เปิดเมืองดัน เศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนดัชนีเทรนด์ขาขึ้น

+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโค วิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 9,866 ราย มีผู้เสียชีวิต 102 ราย รักษาหาย 10,115 ราย

ปัจจัยลบ

– สหรัฐขาดดุลการค้าพุ่งข้ึน 4.2% สู่ระดับ 7.33 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.สูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ท่ีระดับ 7.05 หมื่นล้านดอลลาร์

– ปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งเพิ่มเพดานหนี้ หรือระงับเพดานหน้ีภายในสัปดาห์น้ี เพื่อเลี่ยงไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และหลีกเลี่ยงผลกระทบทางศก. ท่ีร้ายแรง

-เยลเลน รมว.คลังสหรัฐเตือนว่าศก.สหรัฐอาจถดถอย หากสภาคองเกรสไม่เพิ่มเพดานหนี้ภายใน 18 ต.ค.

– รัฐบาลสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์จีน หลังส่งเครื่องบินทหารกว่า 56 ล้าเข้าสุ่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน โดยระบุว่าเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

– IMF อาจทำการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ GDP โลกในปีนี้ จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราย ใหม่ในประเทศท่ีชะลอตัวลง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบ ดัชนีในวันน้ีท่ี 1617-1,640 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC PTTGC
  • ศบค. ผ่อนคลายเปิดโรงหนัง-ปรับเวลาเคอร์ฟิว-เวลาเปิดร้านอาหาร : MAJOR AU ZEN M CPALL
  • ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง: MINT ERW CENTEL AWC SHR ASAP AOT BEM BTS
  • ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นอยู่ในระดับสูง: LANNA BANPU AGE TCC
  • ครม.ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง: ROJNA WHA EGCO

หุ้นรายงานพิเศษ

SGP “มุมมองบวกต่อแนวโน้ม 3Q64”

  • รายงานกำไร 2Q64 ที่ 174 ลบ.เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ YoY แต่ลดลง 87%QoQ เนื่องจากราคาก๊าซ LPG ปรับตัวลงจากไตรมาสก่อนจาก 593 $/Ton สู่ 528 $/Ton ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 11.3% ในไตรมาสก่อนสู่ 1.84% จากผลกระทบของขาดทุนสต๊อกสินค้า โดยกำไรในช่วง 1H64 เท่ากับ 1,496 ลบ. +207%YoY ส่งผลให้กำไรทั้งปี 64 มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากคิดเป็น 73% ของกำไรปี 63 ท่ีเท่ากับ 2,061 ลบ.
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกหลังราคา LPG ปรับตัวขึ้น 22%QoQ จาก 528 $/Ton สู่ 648 $/Ton ซึ่งช่วยหนุนผลกระกอบการ 3Q64 มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากกำไรสต็อกหลังราคา propane และ butane ปรับตัวขึ้นจาก 2Q64 ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นกลับมาเติบโต

หุ้นมีข่าว

(+) BANPU (Bloomberg Consensus 13.30 บาท) BANPU รับตรงๆ ราคาถ่านหินร้อนแรงได้อีก จากดีมานด์ฤดูหนาวจีนขาดแคลนเชื้อเพลิงไฟฟ้า แถมได้กำลังการผลิตที่อินโดนีเซียเพิ่มหลังฝนจาง ดันผลงาน Q4/2564 สุดแข็งแกร่ง เชื่อราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติทรงตัวสูงต่อปีหน้า อุปทานขยายไม่ทัน เดินหน้าปิดดีลโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ATP30 (Bloomberg Consensus – บาท) ลุ้นคว้างานให้บริการลูกค้าใหม่กลุ่มโรงกลั่น ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ หากลุล่วงเร่ิมเดินรถทันทีช่วงปลายไตรมาส 4/64 นี้ เตรียมควักงบ 25-30 ล้านบาท ซื้อรถเพิ่มอีก 20-30 คัน คาดหนุนผลงานโค้งท้ายพีค หลังโรงงานกลับมาเดินเครื่องตามปกติ ดันอัตราใช้รถเพื่มขึ้นแตะ 90% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 70.00 บาท) “พลังงานบริสุทธิ์” เร่งดันยอดขายรถโดยสารไฟฟ้า มั่นใจปลายปีนี้ทะลุเป้า 500 คัน ล่าสุดทยอยส่งมอบเดือน ต.ค.นี้ 116 คัน พร้อมเดินหน้าติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าไว้รองรับรถ EV ขนาดใหญ่ ด้วยเทคโนโลยี Ultra Fast Charge (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WGE (Bloomberg Consensus – บาท) มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโต โชว์แบ็กล็อกแน่น 3,697 ล้านบาท พร้อมอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ 2,000-3,000 ล้านบาท ลุ้นดันแบ็กล็อกแตะ 5,000 ล้านบาท คาดทั้งปี 64 พลิกมีกำไร พร้อมทุ่มงบ 150 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักร-สร้างโรงงาน Prefab แย้มปี 65 เตรียมสร้างโรงงาน ASPHALT รองรับการขยายธุรกิจสู่งานก่อสร้างถนน (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

สัปดาห์ที่ 2 ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ภาคเอกชน (กกร.) หอการค้าไทย ร่วมกับ ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ตลท. แถลงข้อมูลสรุปภาวะซื้อขายหลักทรัพย์

11 ต.ค. ศปก. ศบค. ประเมินสถานการณ์โควิดคลายล็อคเพิ่ม

14 ต.ค. ธปท. เผยแพร่รายงานการประชุม กนง.

สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตฯ ธปท.เผยแพร่รายงานนโยบายการเงิน

สัปดาห์ที่ 4 ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ก.พาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค และดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

29 ต.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

6 ต.ค. อียูเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

7 ต.ค. จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน

8 ต.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือน ส.ค. และดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค. จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.

สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. และสต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค.

12 ต.ค. อียูรายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนต.ค.

สหรัฐรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมนุเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค.

- Advertisement -