บล.บัวหลวง:  

Retail Finance – ปี 2567 จะกลับมาโดดเด่นจริงหรือไม่ (NEUTRAL)

กลุ่มการเงินรายย่อยที่เราให้คำแนะนำจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อัตราซื้อคืนถึงจุดพีค และคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวโดดเด่นในปี 2567 โดยเราได้เชิญ SAWAD และ MTC มาให้ข้อมูลธุรกิจในปี 2567 ในงาน Thai Corporate Day ในวันที่ 8-9 มกราคม

แรงกดดันต่อคุณภาพสินทรัพย์และ NIM ลดลง

เราคาดกำไรสุทธิกลุ่มการเงินรายย่อยที่เราให้คำแนะนำจะเติบโตเร่งตัวขึ้น 13% YoY ในปี 2567 (เราคาดการเติบโตของกำไรกลุ่มการเงินรายย่อยในปี 2566 เพียง 3% YoY) กลุ่มการเงินรายย่อยจะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของ GDP ที่รวดเร็วขึ้นในปี 2567 ซึ่งจะหนุนอุปสงค์สินเชื่อและปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ นอกจากนี้ เรามองว่าอัตราการซื้อคืนถึงจุดสูงสุดแล้วและคาดว่าจะคงอยู่ที่ระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2567 ดังนั้น NIM ที่ถูกดดันน่าจะผ่อนคลายลงในปี 2567-2568

เราเปรียบเทียบความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มการเงินรายย่อยกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร TH2Y ปี 2556-2566 (รูปที่ 1-2) ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าดัชนี SETFIN และอัตราการซื้อคืนพันธบัตรหนึ่งวันของ ธปท. มีความสัมพันธ์เชิงลบถึง 77% เมื่ออัตราซื้อคืนทรงตัวหรือ มีแนวโน้มขาลง (ปี 2562-61 และ 2562-65) โดยปกติ SETFIN จะปรับตัวโดดเด่นกว่าตลาด SETFIN จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 19% ขณะที่ SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 1% เท่านั้น เราคาดว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มการเงินรายย่อยจะปรับตัวโดดเด่นเนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธปท.ในปัจจุบันมีแนวโน้มจะสิ้นสุดลงแล้ว

SAWAD-มูลค่าหุ้นทำสถิติต่ำสุด

เราคาดอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2567 ของ SAWAD ที่ 11% YoY หนุนโดยการขยายตัวของสินเชื่อที่ 20% YoY เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะอ่อนตัวลง เนื่องจากเราคาดว่าสัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติที่ 3-4% ในปี 2567 แต่เรามองว่าตลาดมีการตอบสนองมากเกินไป ปัจจุบัน PER ปี 2567 ของ SAWAD อยู่ที่ 10.1 เท่า ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์และต่ำที่สุดในกลุ่มการเงินรายย่อย (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 9 ปีอยู่ 1.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ในขณะที่เราคาดอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีของกำไรในปี 2567-2568 ที่ 12% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PEG ที่ 0.9 เท่า PBV ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 9 ปีอยู่ 1.6 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) นอกจากนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณธิดา แก้วบุตตา นักลงทุนสัมพันธ์ของ SAWAD เข้าร่วมงาน Thai Corporate Day ในวันที่ 8 ม.ค.

MTC-คุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นในปี 2567

เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์ของ MTC จะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2567 เนื่องจาก MTC เข้มงวดในการคัดกรองการขอสินเชื่อใหม่ตั้งแต่ปี 2566 สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 3.36% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2566 มาอยู่ที่ 3.18% ณ สิ้นเดือนก.ย. และอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อนนี้เสียเพิ่มขึ้นจาก 105.1% ณ สิ้นเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ 110.3% ณ สิ้นเดือนก.ย. เราคาดว่าสินเชื่อปี 2567 จะเติบโต 20% YoY หนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เนื่องจาก MTC เน้นปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกันเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต เราคาดกำไรสุทธิเติบโต16% YoY ในปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อ นอกจากนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณปริทัศน์เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการของ MTC เข้าร่วมงาน Thai Corporate Day ในวันที่ 9 มกราคม

 

- Advertisement -