ตลาดอาจเริ่มเข้าสู่ช่วงพักฐาน เช้านี้รอติดตามเงินเฟ้อไทย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดทรงตัว (+0.03%) ได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มการเงินและข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น S&P500, Nasdag ปิดในแดนลบ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.8% หลังสหรัฐฯเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่ปรับขึ้นในสัปดาห์ก่อน สะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาด

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานภาคเอกชนจากสถาบัน ADP ในเดือนธ.ค. ที่ 1.64 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ 1.2 ตำแหน่ง พร้อมกับรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.02 แสนราย แย่กว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 2.17 แสนราย (ตัวเลขที่ดีต่อเศรษฐกิจ) สำหรับตัวเลขจาก ADP พบว่าเกือบธุรขนาดธุรกิจมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นยกเว้นเพียงธุรกิจที่มีการจ้างงานในระดับ 250 – 499 คน ลดลงเล็กน้อยราว 5 พันราย โดยอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นได้แก่ก่อสร้าง กลุ่มการเงิน การศึกษาและการแพทย์ ธุรกิจบริการรวมไปถึงธุรกิจบริการอื่นๆ จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีทำให้นักลงทุนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นต่อการดำเนินนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ สะท้อนผ่าน US Bond Yield รุ่นอายุ 2 และ 10 ปีที่เริ่มปรับขึ้นมาอีกครั้ง ส่วน CME FED Watch น้ำหนักยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก คาดการณ์ประชุม FED รอบเดือนปลายเดือน ม.ค. ยังคงให้น้ำหนักราว 95% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม และยังคงประเมินเหมือนเดิมว่าการลดดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในช่วง มี.ค. 24 ส่วนคืนนี้ยังต้องติดตามต่อกับตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.68 แสนราย และ 3.8% ตามลำดับ ในประเทศวันนี้กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดรายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ธ.ค. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ -0.3%YoY และเงินเฟ้อพื้นฐานคาดไว้ที่ 0.59%YoY นับเป็นการขยายตัวของเงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำและเป็นบวกกับตลาดหุ้น

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1425 – 1440 พักตัวระยะสั้นจากการไร้ปัจจัยใหม่ๆ ประกอบกับการปรับขึ้นของ US Bond Yield จะสร้างแรงกดดันเล็กน้อย ขณะที่เงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าจากการแข็งค่าของ US Dollar จึงอาจเป็นปัจจัยชะลอกระแสเงินทุนต่างชาติ และ SET INDEX ก็ฟื้นจากจุดต่ำสุดมาแล้วกว่า 5.6% เชิงกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนที่เน้น Trading อาจเริ่มพิจารณาทำกำไรบ้างหลังดัชนีปรับขึ้นรับหลายปัจจัยบวก ส่วนหุ้นแนะนำทยอยสะสมยังเน้นที่ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่วน Trading ระยะสั้นวันนี้เลือกกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ตามสัญญาณปรับขึ้นของ US Bond Yield จะเป็น จิตวิทยาเชิงบวก หุ้นกลางเล็กที่มีปัจจัยบวก (ICHI PLANB)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 203.00 บาท)

เลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร เนื่องจาก 1) งบดุลแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน 2) อัตราการขยายตัวของกำไรโดดเด่น และ ROE ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง 3) เน้นพอร์ตสินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่และต่างประเทศ และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดยเราคาดกำไรสุทธิงวด 4Q23 ที่ 9.5 พันล้านบาท (+25% YoY, -16.7% QoQ) จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2023 เติบโต 44.1%

HMPRO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15.90 บาท)

ด้วยการบริโภคที่อ่อนแอหลังเลือกตั้ง SSSG ของบริษัทจึงติดลบหลักหน่วยต้นในเดือน ก.ค. 2023 และหลักหน่วยกลางในเดือน ก.ย. 2023 แต่เราเชื่อว่าจะปรับดีขึ้นในไตรมาส 4/23 และปี 2024 หนุนจากมาตรการกระตุ้นภาครัฐและยอดขายย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น

- Advertisement -