แรงงานสหรัฐฯดีกว่าคาด จำกัด Upside ตลาดหุ้นระยะสั้น

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อย 0.07% ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าตลาดคาดการณ์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.5% เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นใน ตะวันออกกลางหลังมีการโจมตีในทะเลแดง

Market Outlook

วันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อ ธ.ค. พบว่าหดตัว (-0.8%YoY) หดตัวมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะหดตัวเพียง (-0.3%YoY) นับเป็นการหดตัวต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อ ปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานประกอบไปด้วย น้ำมันเชื้อเพลิง ค่ากระแสไฟฟ้า ตามนโยบาย ลดค่าครองชีพของรัฐบาล รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์และเครื่องประกอบอาหารที่ราคาลดลงต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาผักสดก็ได้ปรับลดลงค่อนข้างมาก ด้วยเงินเฟ้อที่ปรับลงจนเข้าสู่ขั้นติดลบจะเป็นปัจจัยส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าระดับปัจจุบันแล้ว เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ขณะที่ในคืนวันศุกร์สหรัฐฯรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.16 แสนตำแหน่ง และอัตราการว่างงานที่ 3.7% ซึ่งทั้งสองตัวเลขข้างต้นออกมาดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 และ 10 ปีเริ่มขยับขึ้น โดยอายุ 10 ปีปรับขึ้นทดสอบระดับ 4% นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 เดือนที่ทดสอบระดับนี้ อย่างไรก็ตาม CME FED Watch ยังให้น้ำหนักคงดอกเบี้ยราว 94% ในการประชุม FED ปลายเดือน ม.ค. ที่จะคง ดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมแต่ก็เริ่มปรับเพิ่มโอกาสลดดอกเบี้ยน้อยลงในการประชุมเดือน มี.ค. ปัจจัยข้างต้นจะเป็นตัวกดดันการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลกระยะสั้น จนกว่าจะเห็นเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีกำหนดรายงานในวันพฤหัสบดี Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 3.2%YoY, 0.2%MOM และเงินเฟ้อพื้นฐานประเมินไว้ที่ 3.8%YOY หาก ต่ำกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเคลื่อนไหวตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง และวันศุกร์ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.3% YoY หากต่ำกว่าคาดการณ์ก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้นเช่นกัน

สัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1400 – 1440 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนักลงทุนระยะสั้นทยอยลดพอร์ตการลงทุน หลังจากดัชนีปรับขึ้นมารับปัจจัยบวกไปพอสมควร และแรงกดดันเรื่องดอกเบี้ยกลับมามีนัยยะเล็กน้อยอีกครั้ง ส่วนนักลงทุนระยะกลางยังคงสะสมได้แต่เริ่มพิจารณามากขึ้นในหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่วน Trading ระยะสั้นแนะนำกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ตามการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบ BRT รวมไปถึงกลุ่มได้ประโยชน์จากโครงการ E Receive (COM7 SYNEX)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 180.00 บาท) มุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกำไรของ PTTEP ในไตรมาส 4/23 และปี 2024 ราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นจะหนุนราคาขายเฉลี่ย ขณะที่ผู้บริหารให้แนวทางปริมาณขายว่าจะโต 9% YOY ในปี 2024 หนุนจากแหล่งเอราวัณ (G1/61) ที่เร่งการผลิตเป็น 800 MMSCFDEIA ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะยังยืนในกรอบสูงช่วงไตรมาส 4/2 ถึงปี 2024

COCOCO (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) เชื่อว่าประโยชน์จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นสามารถกลบผลกระทบของราคาขายต่อหน่วยที่ลดลง และจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนต่อการเติบโตของกำไรปี 2023-25 ได้

- Advertisement -