ไร้ปัจจัยใหม่ๆ รอติดตามประชุม ครม. ในวันนี้
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.58% จากการปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯช่วยหนุนหุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้นได้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 3.4% หลังชาอุดิอาระเบียประกาศลดราคาน้ำมันครั้งใหญ่และกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันปรับเพิ่มการผลิต
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆที่สำคัญ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ ทรงตัว US Bond Yield 2 ปีปรับลงเล็กน้อย พร้อมกับ Dollar Index ที่อ่อนค่า ราคาทองคำปรับลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ ทั้งนี้ด้วยการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆที่ค่อนข้างทรงตัว สะท้อนว่านักลงทุนกำลังรอปัจจัยบางอย่าง ซึ่งประเมินว่าจะเป็นเงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย โดยคืนนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
สำหรับปัจจัยในประเทศรอติดตามประชุม ครม. ในวันนี้ จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับโครงการ Digital Wallet ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งคำตอบของคำถามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ส่งไปถามทางกฤษฎีกาเรียบร้อย ซึ่งคำตอบของทางกฤษฎีกาเป็นไปตามอำนาจของคณะรัฐมนตรี จึงยังเชื่อมั่นว่าโครงการจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดว่าช่วงเวลาที่จะสามารถใช้จ่ายได้อยู่ในช่วง พ.ค. 24 หากโครงการ Digital Wallet ผ่านได้เราประเมินกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) จะเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุด
สำหรับการปรับฐานของ SET INDEX วานนี้เรายังไม่ได้กังวลมากนักมองเป็นเพียงแรงขายทำกำไรระยะสั้นจากการปรับขึ้นแรงก่อนหน้า ประกอบกับสหรัฐฯที่รายงานจ้างงานแข็งแกร่ง สร้างแรงกดดันเล็กน้อย แต่หากคืนวันพฤหัสบดีสหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อต่ำกว่าคาดการณ์ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นจะกลับมาเคลื่อนไหวสดใสอีกครั้ง
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1410 – 1430 อาจเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานบ้าง เพราะราคาน้ำมันที่ปรับลง แต่ก็เชื่อว่าด้วยจิตวิทยาการลงทุนที่เป็นบวกจากทั้งตลาดหุ้นญี่ปุ่นและมองเป็นโอกาลสะสม เน้นที่กลุ่ม Domesic Pay อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (SAWAD TIDLOR) ศูนย์การค้า (CPN) อสังหาริมทรัพย์ (AP LH SPALI)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท)
คาดว่ากำไรไตรมาส 4/23 จะโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ จาก SSSG ที่แข็งแกร่ง อัตรากำไรธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) ที่ดี และการขาดหายไปของค่าตอบแทนพนักงานพิเศษที่เกิดขึ้นปีก่อน ปัจจัยบวกสำคัญคือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้จากมาตรการกระตุ้นภาครัฐผ่านนโยบายเงิน ดิจิทัล 5 แสนล้านบาท
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 159.00 บาท)
แม้มีความท้าทายจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า กลุ่มธนาคารยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2023 เราคาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารจะสร้างสถิติใหม่ ที่ 2.02 แสนล้านบาท (+ 18.5% YoY) ในปี 2023 โดยธนาคารยังมีความสามารถการจัดการคุณภาพสินเชื่อได้ดี งบดุลแข็งแกร่ง โดยคาด NPL ratio ของกลุ่มฯ จะทรงตัว YoY ที่ 3.7% ใน 4Q23 และ Coverage ratio สงที่ 178.6% แข็งแกร่งเพียงพอต่อความไม่แน่นอนในอนาคต