CKP แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท

เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.5 บาท (จาก 4.1 บาท) เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยต่อไปนี้: (i) การเปลี่ยนแปลงสู่ La Nina ในปี 2567 และ (ii) การปรับโครงสร้างราคาก๊าซรวม เราคาดว่ากำไรหลักใน 4Q23F จะเพิ่มขึ้น yoy เป็น 457 ล้านบาท จาก 72 ล้านบาทใน 4Q22 เนื่องจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นที่ NN2 และ XPCL เราอัพเกรดกำไรหลัก ปี FY23-25F ขึ้น 32%/19%/16% โดยอิงจาก (ⅰ) อัตราการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นของ NN2 และ XPCL และ (ii) แก้ไขค่า Ft และต้นทุนู ก๊าซที่ลดลงสำหรับ SPP หลังจากการปรับโครงสร้างใหม่ ปัจจัยเหล่านี้ จะสนับสนุนการเติบโตของกำไรใหม่ในปี FY24-25F โดยที่กำไรหลักจะเติบโต 19% ต่อปี CKP เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงไฟฟ้า

กำไรหลัก 4Q23F เพิ่มขึ้น yoy โดยได้แรงหนุนจาก NN2 และ XPCL

เราคาดว่า CKP จะมีกำไรหลักได้ 457 ล้านบาทใน 4Q23F เพิ่มขึ้น 422% yoy แต่ลดลง 55% qoq ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญจากปีก่อนคือปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นที่ NN2 และ XPCL การลดลง qoq จะขึ้นอยู่กับฤดูกาล เราคาดว่าปริมาณการผลิตไฟฟ้า NN2 จะเพิ่มขึ้นถึง 607GWh (+65% yoy, +34% qoq) ส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL คาดว่าจะยังคงเป็นบวกที่ 320 ล้านบาท (+199% yoy, -61% qoq)

อัพเกรดกำไรหลักปี FY23-25F 32%/19%/16%

เนื่องจากกำไรมีอัพไซด์จาก (i) เอลนิโญที่เปลี่ยนไปเป็นลานีน่า และ (ii) ต้นทุนก๊าซที่ลดลงสำหรับ SPP ด้วยการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ เราได้ปรับเพิ่มกำไรหลักในปีงบประมาณ 23-25F หลังจาก (ⅰ) อัปเกรดปัจจัยด้านกำลังการผลิต NN2 จาก 26%/30%/35% เป็น 31%/33.5%/35.5% ในช่วงเวลานั้น (ii) เพิ่มปัจจัยด้านกำลัง การผลิต XPCL จาก 62%/64 % เป็น 65%/66.5% และ (iii) สมมติว่า Ft จะเพิ่มขึ้นจาก 0.2/0.25 Bt/kWh เป็น 0.41/0.3 ในปี 2567-2568 และต้นทุนก๊าซ สำหรับ SPP จะลดลง 8% ในปี2024-2025

คงคำแนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 4.5 บาท/หน่วย (จากเดิม 4.1 บาท)

เราประเมินราคาเป้าหมายโดยใช้วิธี DCF (risk free rate ที่ 3.5%, market risk premium ที่ 8%, beta ที่ 1.2) เราคาดว่าจะขาดทุนเพียงเล็กน้อยใน 1Q24F (ดีขึ้น yoy) โดยได้แรงหนุนจากระดับน้ำในเขื่อน  NN2 ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 365 เมตร ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งเพียงพอที่จะรองรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงหน้าแล้งของ 1Q24 การ ดำเนินงานหลักจะกลับมามีกำไรตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป