Our View? “คาดยังอ่อนตัวลงได้อีก”
ภาพตลาดยังอยู่ในกรอบ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,410 และแนวต้านที่บริเวณ 1,436 จุด โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่นอายุ 10 ปี (10 Year US-Bond Yield) ยังคงยืนได้ที่ระดับ 4.0% และการคาดการของนักลงทุน เกี่ยวกับภาพที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. นี้ มีความเป็นไปได้ลดลง ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 102.5 นอกจากนี้นักลงทุนยังคง จับตาการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ธ.ค.ของสหรัฐฯในวันพฤหัสนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 147 USD/bbl อยู่ที่ 72.24 USD/bbl จากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลง และลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงปิดบ่อน้ำมันชารารา (Sharara) ซึ่งเป็นหนึ่งในบ่อน้ำมันที่มีขนาดใหญ่ของประเทศและมีกำลังการผลิตสูงถึง 300,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากประสบปัญหาการประท้วงของคนงาน แต่ยังคงต้องจับตาความไม่สงบในแถบทะเลแดง หลังจากกองกำลัง ป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) เตือนว่า สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาชามีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อไปจนถึงสิ้นปี 2567 และอาจจะลุกลามไปสู่แนวรบอื่นๆ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่นายกรัฐมนตรีเปิดเผยไทย-จีน จะยกเลิกการใช้วีซ่าถาวรถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. มองจะช่วยกระตุ้นความคาดหวังในการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นมองเป็นบวกต่อ หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, AWC, ERW, SPA และ EKH)
นักลงทุนจับตาการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในวันนี้ เกี่ยวกับประเด็นอัตราดอกเบี้ย ซึ่ง กนง. มีกำหนดการประชุมครั้งแรกในวันที่ 7 ก.พ. ในขณะที่การออกมาตรการ Easy E-Receipt สำหรับการหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในช่วงวันที่ 1ม.ค. – 15 ก.พ.67 คาดจะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วง 1Q’66 เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อ ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มค้าปลีก เช่น HMPRO, ILM
ทั้งนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออกจากการรายงานตัวเลข ส่งออกเดือน พ.ย. ของไทยออกมาขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนการส่งออกของไทยกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ โดยยังขยายตัวได้ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม คาดได้รับแรงหนุนจากการจบวงรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้การบริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มส่งออกเกษตร, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ICHI และ SAPPE
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “SPA”
เรามอง SPA ยังได้รับประโยชน์จากภาพการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว จากตัวเลขนักท่องเที่ยวสัปดาห์แรกของปี 67 เติบโตดี ในขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเป็นอันดับ 1 ประกอบกับมาตรการ VISA free ของรัฐบาล คาดจะทำให้ภาพการ ท่องเที่ยวโดยรวมยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องกลยุทธ์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท (DCF)