SET ระวังบ่ายซึมลง กรอบ 1,410 – 1,420 จุด / Top pick บ่าย: CK
Phillip Strategist Comments
- สรุปตลาดเช้า ดัชนี SET Index ภาคเช้าปิด -0.79 จุด (หรือ -0.06%) ไปอยู่ที่ 1,414.14 จุด แรงหนุนนำโดย PTT, BH และ BDMS ส่วนแรงกดดันนำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั้ง BBL, KBANK ขณะที่ภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ลบ แรงกดดันจาก Citi ลดคาดการณ์ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในฮ่องกง, World Bank ลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพียง 2.4% และความกังวลเฟดอาจยังไม่ลดอกเบี้ยในรอบประชุมเดือน มี.ค. ตามที่คาดการณ์ไว้
- มุมมองตลาดบ่ายนี้: ทางฝ่ายคาดดัชนี SET Index ภาคบ่ายจะ Sideways Down แรงกดดันจาก 1)ดอลลาร์แข็งส่งให้บาทอ่อนค่า เช้านี้ยืน 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นแรงกดดันต่อ Fund-flow อาจไหลออกจากหุ้นไทยต่อเนื่อง หลังจากที่ต่างชาติขายหุ้นไทยแล้วกว่า 3.67 พันลบ. MTD 2) กลุ่มแบงก์มองถูกกดดันต่อ จากคาดนายกฯ จะหารือกับผู้ว่า ธปท. ในช่วงบ่ายนี้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อ NIM ท่ามกลางความกังวลปัญหาการผิดนัดชำระหุ้นกู้ ทำให้คาดว่ากลุ่มแบงก์อาจต้องตั้งสำรองมากขึ้น ส่วนปัจจัยพยุงจาก 1) กลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน WTI ที่ฟื้นตัว +0.46% สู่ 72.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลลิเบียปิดบ่อน้ำมัน ซึ่งจะกระทบต่ออุปทานน้ำมัน และ 2) แรงเก็งกำไรในบริษัทจดทะเบียนแบบ Selective โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่มี High Season ในช่วง 4Q66 อย่าง กลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว, จับจ่ายใช้สอย, และความหวังในกลุ่มรับเหมาจากโครงการภาครัฐที่รอประมูลอยู่มากในปีนี้
- Top pick: CK ทางฝ่ายมองแรงหนุนจาก กระทรวงคมนาคมที่มีแผนเสนอและเตรียมเข้า ครม. 7 โครงการ ซึ่งจะพิจารณาในเดือนนี้ รวมมูลค่ากว่า 1.33 แสนล้านบาท นำโดย มอเตอร์เวย์ M5 มูลค่า 5.6 หมื่นลบ., รถไฟฟ้าสายสีแดง (ส่วนต่อขยาย รังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ มูลค่า 6.5 พันลบ., ตลิ่งชัน – ศาลายา มูลค่า 1.5 หมื่นลบ.) เป็นต้น ทำให้คาดว่าจะช่วยหนุนให้ Backlog ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นงวด 3Q66 ที่ 1.37 แสนลบ. ขณะที่งวด 4Q66 ทางฝ่ายมองมีโอกาสกำไรเติบโต q-q จากรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นตามร้อยละการส่งมอบงาน และต้นทุนที่ลดลงจากดัชนีวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลดลง ด้านคู่แข่งที่มีปัญหาด้านสภาพคล่อง ทางฝ่ายมองอาจทำให้คู่แข่งขาดคุณสมบัติเข้าร่วมประมูลบางโครงการ ซึ่งจะเป็นผลดีด้านการแข่งประกวดราคาให้ลดความรุนแรงลง