Sideways รอเลือกตั้ง / 1,410-1,420

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ยังย่ำอยู่ที่เดิม: หลังเริ่มมีปัจจัยหนุนใหม่จำกัด ล่าสุดภกพมีมติปรับขึ้นราคาไฟฟ้างวดมค-เม.ย.67 สู่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วย หนุนหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขณะที่มองระยะสั้นตลาดจะหันไปให้น้ำหนักกับการเก็งกำไรใน 1) หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการใน 4Q66 จะออกมาดี ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มธนาคาร แม้มีแรงกดดันจากประเด็นการปรับลดคำแนะนำในการลงทุนในหุ้นธนาคารไทยของโบรคเกอร์ต่างประเทศข้ามารบกวนบ้าง แต่มองการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงและการฟืนตัวของระบบเศรษฐกิจยังเป็นแรงหนุนต่อผลประกอบการ 2) หุ้นปันผลทางเลือกที่ดียามตลาดปรับตัวลง เนื่องจาก DividendYiela จะช่วยบรราผลขาดทุนจากการปรับตัวลงของราคาหุ้น ในส่วนของปัจจัยจากภายนอก คือการเลือกตั้งไต้หวันในวันที่ 13 มค.นี้ ตลาดจับจ้องทิศทางการโหวดเลือกประธานาธิบดีคนถัดไป โดยในครั้งนี้มีผู้เข้าชิงจาก 3 พรรคการมือง โดยผลโพลล์ล่าสุดพบว่า นายไล่ชิงเต๋อจากพรรค DPP มีคะแนนนำผู้สมัครจากอีก 2 พรรค ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้จีน ขณะที่สหรัฐเองจะได้ประโยชน์จากชัยชนะของพรรคการมืองดังกล่าว จึงเป็นสมรภูมิการเมืองที่น่าจับตา ด้านหุ้นที่คาดจะได้รับผลพลอยได้จากความตึงเครียดทางการเมืองนี้ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหรรม เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่วางตัวเป็นกลางทางการเมือง การย้ายฐานการผลิตมายังไทยจึงเป็นเครื่องรับประกันความปลอดภัยของกระบวนการผลิต คาดเห็นแรงเข้าเก็งกำไรในหุ้นกลุ้มดังกล่าวในช่วงใกล้วันเลือกตั้งไต้หวัน ด้านปัจจัยอื่นๆ ที่ตลาดยังรอลุ้น ได้แก่ ตัวเลข CPI และ Core CPI สหรัฐในคืนนี้ คาดจะออกมาที่ +3.2%yoy และ 0.3%yoyตามลำดับ ยังบ่งชี้ทิศทางการขยายตัวของเงินฟ้อ อย่างโรก็ดีตัว เลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐคาดจะเพิ่มขึ้นไปที่ 2.1 แสนราย โดยรวมอาจส่งผลให้ตลาดไม่มั่นใจต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) เก็งงบ 4Q66: BH, BCH, KBANK, TISCO 2) Dividend play: BRI, KKP, LH, SC, SIRE, SPALI, TISCO 3) ขึ้นค่าไฟ : ROJNA, GULF, GPSC, BGRIM 4) เลือกตั้งไต้หวัน: WHA, AMATA, PIN 5) Selective plav: BTG, GFPT, CPF, TU,ITC

ปัจจัยบวก

  • กกพ.เคาะขึ้นค่าไฟงวดใหม่ 4.18 บาท/หน่วย สำหรับค่าไฟในเดือนม.ค.-เม.ย.67 เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
  • กกร.คงคาดการณ์ GDP ปี 67 โต 2.8-3.3% ไม่รวมผลดิจิทัลวอลเล็ต หั่นเงินเฟ้อเหลือ 1.2% จาก 2.2% จากนโยบายลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ส่งผลให้ประมาณการเงินเฟ้อปรับลดลง
  • FETCO เปิดดัชนีเชื่อมันนักลงทุนเข้าเกณฑ์ “ร้อนแรง” โดยดัชนีความเชื่อมั้นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 137.00 ปรับขึ้น 38.9% จากเดือนก่อน นักลงทุนมองว่าการไหลเข้าของเงินทุน เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด
  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF แล้ว หนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวขึ้น

ปัจจัยลบ

  • โกลด์แมน แซคส์คาดธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะรายงานผลกำไรลดลงในโตรมาส 4/2566 หลังจากธนาคารได้กันเงินทุนสำรองเพื่อรับมือกับปัญหาหนี้สูญ ในขณะเดียวกันธนาคารต้องจ่ายเงินให้กับผู้ฝากเงินเพิ่มขึ้นด้วย
  • เครือข่ายสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ 4 แห่งออกประกาศราคาแนะนำไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเกษตรกรวันที่ 11 มกราคม 2567 ขึ้นจากฟองละ 3.50 เป็น 3.80 บาท โดยจะทำให้ราคาไข่ไก่ขึ้นปรับแผงละ 9 บาท ทั้งขายปลีกและขายส่ง
  • ค่าจ้างที่แท้จริงของพนักงานญี่ปุ่นลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 20 ในเดือนพ.ย. 66 เนื่องจากเงินเดือนปรับขึ้นไม่ทันกับราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น ด้านนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ ปรับขึ้นค่าแรงให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

PICKS OF THE DAY

BTG BUY

  • เป้าหมาย 25.00 / 25.50 แนวรับ 24.00
  • สมาคมฯขอปรับราคาสุกร: สมาคมผู้เลี้ยงสุกรขอปรับฐานราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ในขั้นแรกที่ 68-74 บาท/กก. คาดว่าราคาสุกรณ์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน 10 ก.พ. นี้ ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงคาดว่าจะลดลงใน 1Q67 จากต้นทุนข้าวโพดที่ลดลง ที่เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวไปเมื่อปลายปีก่อน
  • เลือกผู้ประกอบการสัดส่วนในไทยเป็นหลัก: BTG ได้ประโยชน์มากสุด มีสัดส่วนรายได้จากสุกรราว 40% สูงที่สุดในกลุ่มผู้เลี้ยงรายใหญ่ และมีสัดส่วนรายได้ในประเทศกว่า 90% และยังมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ROJNA

  • เป้าหมาย 6.30 / 6.60 แนวรับ 6.00
  • ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์หนุนย้ายฐาน: ไต้หวันจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 13 ม.ค. นี้ ซึ่งนาย Lai Ching-Te จากพรรค DPP ที่ชูนโยบายต่อต้านจีน มีโพลล์ขึ้นนำกว่า 32% ส่งผลให้ทางฝ่ายมองจะเป็นแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ และช่วยหนุนการย้ายฐานการผลิตสู่นิคมในไทยที่โรจนะมีอยู่
  • ขึ้นค่าไฟหนุนผลการดำเนินงาน: คาดได้แรงหนุนจากการที่กกพ.มีมติเห็นชอบค่า Ft สำหรับเรียกเก็บงวดเดือนม.ค.-เม.ย.67 ที่ 39.72 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้ามาอยู่ 4.18 บาท/หน่วย เพิ่มขึ้นจาก 3.99 บาท/หน่วย ในงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.66 สอดรับกับรายได้หลักของ ROJNA ที่มาจากการขายไฟฟ้า โดยคิดเป็นประมาณ 72% ของรายได้จากการดำเนินธุรกิจใน 9M66
- Advertisement -