บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Electronics Sector: ประมาณการ 4Q66 กำไรจากธุรกิจหลักจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ (Neutral)
Event
ประมาณการ 4Q66 และอัพเดตแนวโน้มอุตสาหกรรม
Impact
ประมาณการ 4Q66: กำไรจากธุรกิจหลักลดลงทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักรวมใน 4Q66F ของบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่ (Delta Electronics (Thailand) (DELTA.BK/DELTA TB)*, Hana Microelectronics (HANA.BK/HANA TB)*, KCE Electronics (KCE.BK/KCE TB)* และ SVI (SVI.BK/SVI TB)) จะอยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท (-5 YoY, -10% QoQ) ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2566F อยู่ที่ 2.22 หมื่นล้านบาท (+7% YoY) ซึ่งเมื่อเทียบ YoY เราคาดว่ากำไรของ HANA จะเติบโตมากที่สุดที่ 19% YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากฐานที่ต่ำเพราะมีการรับรู้ผลขาดทุนจาก PMS ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ากำไรของ KCE จะเติบโตมากที่สุด QoQ ที่ 16% QoQ เนื่องจากยอดขายฟื้นตัวขึ้น 6% QoQ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 1ppt
อุตสาหกรรมมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในปี 2567 โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม
เรายังคงมองว่าอุตสาหกรรมจะฟื้นตัวจากการกลับมาตุนสต็อก (inventory restocking) ในปี 2567F โดยคาดว่ากลุ่มย่อยทุกกลุ่มจะโตได้ในปี 2567 ซึ่งได้แก่ smartphone (4%), NB (6%), PC (6%) และ server (15%) (Figure 3) อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่เอื้ออำนวย (อัตราดอกเบี้ยที่สูง และภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอ) และความกังวลว่าเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย อาจจะทำให้มีความไม่แน่นอนอยู่บ้าง
คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวขึ้นในปี 2567
เราคาดว่า Core EPS ปี 2567F ของบริษัทในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่จะฟื้นตัวขึ้น 10% YoY จากการฟื้นตัวของทั้งยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่ายอดขายของ DELTA จะเติบโตสูงที่สุดในปี 2567F ที่ 14% YoY เนื่องจากบริษัทสามารถเกาะตามกระแสโลกได้ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ KCE จะเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 1.4ppts YoY เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้น เราคาดว่า HANA จะเป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มที่ Core EPS หดตัวลงในปีนี้ โดยคาดว่าจะลดลง 3% YoY เพราะผลของ dilution จากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง (private placement)
ประเมินราคาเป้าหมายแบบมี Premium
จากแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ทำให้เราประเมินราคาเป้าหมายของหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เราศึกษาอยู่แบบมี premium โดยเราใช้ PER เฉลี่ย +0.5 S.D. กับ DELTA (55.0X) และ KCE (29.0X) เพื่อสะท้อนถึงกำไรที่คาดว่าจะโต 19% และ 23% ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน เราใช้ PER เฉลี่ย +0.25 S.D. กับ HANA (17.0X) เพื่อสะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม smartphone และผลจากฐานที่ต่ำในปี 2566 ซึ่งช่วยชดเชยผลของ dilution จากการขายให้แบบ private placement ไปได้บางส่วน อย่างไรก็ตาม เราประเมินราคาเป้าหมายของ SVI แบบมี discount โดยใช้ PER เฉลี่ย -0.25 S.D. (15.0X ) เพื่อสะท้อนถึงส่วนรองรับที่น้อยกว่าหุ้นอื่นนกลุ่มเพราะอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่า
Valuation & action
เราให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ “เท่ากับตลาด” และแนะนำ “ถือ” หุ้นทุกตัวในกลุ่มที่เราศึกษาอยู่ ซึ่งได้แก่ DELTA (ราคาเป้าหมาย 88.00 บาท), HANA (ราคาเป้าหมาย 47.00 บาท), KCE (ราคาเป้าหมาย 49.00 บาท) และ SVI (ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท)
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า, ขาดแคลนวัตถุดิบ, และ เงินบาทแข็งค่าขึ้น