พระเอกเป็นกลุ่มแบงก์ / 1,410-1,420

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET แกว่งแคบ: ท่ามกลางปัจจัยบวกสลับลบที่ส่งผลให้ดัชนีมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบ ทั้งนี้มองปัจจัยหนุนได้แก่ 1) คาดงบ 4Q66 กลุ่มแบงก์จะออกมาในโทนบวก โดยจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 36.7%y-y แรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่ม Real Sector มองได้แรงหนุนแบบ Selective จากช่วง Preview งบฯ 2) นายโล ชิงเต๋อ จากพรรค DPP ชนะการเลือกตั้งปธน. ไต้หวัน ขณะที่ทางสหรัฐ ประกาศสวน ไม่สนับสนุนอกจะได้หวัน” ทางฝ่ายเองทำให้ความถึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดลง เป็นแรงหนุนต่อ เป็นแรง Sentiment ตลาดหุ้นภูมิภาคระยะสั้น อย่างไรก็ตามระยะกลาง-ยาว พรรค DPP มีแนวคิดต่อต้านจีน จึงมองเป็นจังหวะเข้าสะสมหุ้นกลุ่มนิคมฯ และหุ้นเกี่ยวข้องกับการย้ายฐานสู่ไทย 3) ความหวังจากจีนใช้นโยบายกระตุ้นศก. โดยมองโอกาสที่จีนจะลดอัตรากันสำรอง RRR ลงจากเดิม 11.5% และลดอัตราดอกเบี้ย MLF ลงจากเดิม 2.5% สู่คาด 2.4% และ 4) นายกฯ เผยผ่าน X (ทวิตเตอร์) เตรียมออกนโยบายฟรีวีซ่า 90 วันแก่ต่างชาติที่สนใจ Soft Power ในไทย เช่น มวยไทย, ดนตรีไทย, ทำอาหารไทรย เป็นต้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นภาค ท่องเที่ยวุสำหรับปัจจัยกดดันจาก 1) ความกังวลประเด็นหุ้นกู้ ITD ที่จะจัดเจรจาเพื่อขอเลื่อนการชำระเงินต้นกับผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 17 ม.ค.นี้ มองแม้จะไม่ลุกลามไปยัง Sector รับเหมาฯ แต่ความกังวลนี้อาจส่งให้การออกหุ้นกู้ใหม่ของบริษัทจดทะเบียนอื่นที่จะ Roll- Over ได้รับผลกระทบเชิง Sentiment โดยเฉพาะบริษัทที่มีฐานะการเงินอ่อนแอ 2) ติดตามงานประชุม ธปท. Policy Briefing วันนี้ คาดว่าธปท.จะไม่ส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ย และให้ระวังถ้อยแถลงที่อาจสะท้อนความขัดแย้งกับรัฐบาล ทำให้อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นเสถียรภาพในการดำเนินนโยบายได้ และ 3) ติดตาม Fund-flow หลังการไหลออกจากหุ้นไทยกว่า 6.3 พันลบ. MTD
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) งบ 4Q66: BBL, KBANK, SCB 2) หวังจีนกระตุ้นศก.: HANA, NER, STA 3) ท่องเที่ยว: AAV, AOT, ERW 4) Dividend: SAT, TCAP, TISCO 4) Defensive: ADVANC, BCH, BDMS, BH, CHG และ 5) ย้ายฐาน: AMATA, ROJNA, WHA

ปัจจัยบวก

  • ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือนธ.ค.66 พบว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 68% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว สำหรับแนวโน้มลูกค้าใน 1Q67 โรงแรมส่วนใหญ่ประเมินว่าลูกค้าต่างชาติ (ไม่รวมจีน) ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 4Q66
  • FETCO เผยศท.ไทยปีนี้เตรียมรับดี คือส่งออกเริ่มมีเสถียรภาพ เริ่มทรงตัวได้ ส่วนการบริโภค การลงทุนก็เหมือนกับทรงตัวได้ ขณะที่การท่องเที่ยวดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้ง เรากำลังจะเข้าสู่ช่วงใหม่ของศก.โลก จะมีการกระตุ้นศก.พร้อมๆ กันจากธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป
  • สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีนเผยการส่งออกรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น 57.9% เมื่อเทียบรายปีสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.91 ล้านคันในปี 66 เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

ปัจจัยลบ

  • GDP ของสหราชอาณาจักรในเดือนพ.ย.66 +0.3% หลังจาก -0.3% ในเดือนต.ค.66 และดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ +0.2% แต่ความอ่อนแอทางศก.ในช่วงเดือนก่อนๆทำให้มีความเสี่ยงสูงที่ประเทศจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
  • ฝรั่งเศสเผย CPI เดือนธ.ค.66 ปรับตัวขึ้นเป็น +3.7% y-y และ +0.1%m-m จาก +3.5% y-y และ -0.2% m-m ในเดือนพ.ย.66
  • ปธ.เฟดคลีแลนด์ ให้สัมภาษณ์ กับบลูเบิร์กว่า CPI ของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวเกินคาดในเดือน.. สะท้อนให้เห็นว่าการที่เฟดจะสามารถบรรลุเป้หมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% นั้นยังคงเป็นหนทางที่ยากลำบาก และขณะนี้อาจจะเร็วเกินไปที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี..
  • ปธ. ECB แสดงความเห็นว่า หากชาวอเมริกันเลือกนายโดนัลด์ ทรัมป์ให้กลับมาเป็นปธน.สหรัฐฯ อีกครั้ง จะถือเป็นภัยคุกคามสำหรับยุโรป

PICKS OF THE DAY

HANA BUY
  • เป้าหมาย 53.00 / 55.00 แนวรับ 51.00
  • ดักรอข่าวดีนี้: คาดตัวเลข GDP จีนปี 66 อยู่ที่ 5.2%y-y มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 5% และคาดว่าทางการจีนจะดำเนินนโยบายลดดอกเบี้ย MLF ระยะ 1 ปี ลงจาก 2.5% สู่ 2.4% ในจันทร์นี้ มองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีนจะปรับตัวขึ้นรับปัจจัยบวก
  • เลือกจากข่าวที่ดีและอุตฯที่ดี: มีหลายอุตฯที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจจีน แต่เราชอบ HANA มากสุดเนื่องจากมีภาพอุตฯช่วยหนุนด้วย กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์กำลังจะเข้าสู่โหมดกลับตัวเป็นขาขึ้น ทั้งนี้การเติบโตของรายได้ของอุตสาหกรรม ช่วงสิงหาคมถึงตุลาคมปีที่แล้วกลับเข้าสู่การฟื้นตัว เราเชื่อว่าช่วงเวลาที่เลวร้ายสุดของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว
KBANK BUY
  • เป้าหมาย 135.00 / 138.00 แนวรับ 130.00
  • คาดกำไรโตเด่นสุด y-y: จากการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลงมาก และการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยตามการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คาดว่าจะทำให้ KBANK มีกำไร 4Q66 9.7 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 204.6% y-y เป็นระดับที่เด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
  • สินเชื่อเริ่มฟื้นตัว คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น: สินเชื่อในเดือน พ.ย. ฟื้นตัวขึ้น 0.4% m-m ถึงแม้ว่าทั้งปีจะยังคงติบลบอยู่ก็ตาม แต่คุณภาพสินทรัพย์ก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จาก NPL ใน 3Q66 ที่ลดลง สวนทางกับกลุ่มที่ส่วนใหญ่มี NPL เพิ่มสูงขึ้น
- Advertisement -