SUSCO – มีแรงหนุนจากทั้งรถสันดาปและ EV

• What’s new

แนวโน้มผลประกอบการ 4Q23F และปี FY24F ถูกผลักดันด้วยความต้องการเดินทางในประเทศที่เพิ่มขึ้นและยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า

โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้

i) ยอดขายน้ำมันฟื้นตัวใน 4Q23-1Q24F เนื่องจาก i) เป็นฤดูกาลเดินทาง ซึ่งจะผลักดันปริมาณขายน้ำมัน (คาดปริมาณขายน้ำมัน +9% yoy มาที่ 1 พันล้านลิตรในปี 2024F) ii) การขยายสถานีบริการน้ำมันเป็น 260 สาขา (จาก 250 สาขาในปี 2022) ด้วยมีแผนจะขยาย 5-10 สาขาต่อปี iii) แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาที่ 1.60-1.70 บาทต่อลิตร ใน 4Q23F (จาก 1.40- 1.50 บาทต่อลิตรใน 1H23) โดยมีผลกระทบที่จำกัดจากมาตรการควบคุม เพดานดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตรของภาครัฐ (เนื่องจากรัฐใช้กลไกกองทุนน้ำมัน ดังนั้น จึงมีผลต่อผู้ค้าปลีกน้ำมันจำกัด)

ii) เติบโตไปกับการเพิ่มขึ้นของยอดขาย BYD : SUSCO เป็น dealer จําหน่าย รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้กับ BYD ดังนั้นจึงได้ประโยชน์จากความนิยมของแบรนด์ BYD ปัจจุบัน BYD SUSCO Beyond มีศูนย์ให้บริการทั้งสิ้น 7 สาขา ( 5 แห่ง ในกรุงเทพฯ และ 2 แห่งในภาคกลาง) คิดเป็นสัดส่วน 10% จากศูนย์ BYD (70 แห่งทั่วประเทศ) โดยใน 9M23 SUSCO มียอดขายทั้งสิ้น 800 คัน (สัดส่วน 10% ของยอดขาย BYD) ในปี 2024F บริษัทตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ EV ของ SUSCO จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 6,000 คัน ด้วยแผนการขยายสาขา 3-4 สาขามาที่ 11 สาขา อนึ่ง BYD เป็นเบอร์ 1 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มีส่วนแบ่งตลาด 40% (ยอดขาย BYD โดยในปี 2023 อยู่ที่ 30,163 คัน จากยอดขายรถยนต์ ไฟฟ้าทั้งหมดในไทยที่ 75,707 คัน) โดย BYD ยังมีแผนที่จะนำรถยนต์รุ่นใหม่ มาวางจำหน่ายไตรมาสละ 1 รุ่นในปี 2024F (จากปัจจุบัน 3 รุ่น)

• Analysis

แนวโน้มผลประกอบการดีและมูลค่าน่าสนใจ ตลาดให้มูลค่าเหมาะสม 6.30 บาท

เรามีมุมมองเป็นบวกต่อ SUSCO เนื่องจาก i) SUSCO ซื้อขายถูกที่สุดในกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน ด้วย 10x, P/E FY24F (PTG 14x, OR 18x) และมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดที่ 6-7% ต่อปี และ i) เราคาดผลประกอบการจะเติบโตดีขึ้น yoy, qoq ใน 4Q23F และคาดแนวโน้มดีต่อเนื่องใน 1Q24F อิงจาก Consensus คาดกำไรสุทธิ 2Q24F อยู่ที่ 57% yoy มาที่ 501 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนมาจากการเติบโตของธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมัน การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยยังอยู่ในช่วงการขยายตัว

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เราเห็นการทำโปรโมชั่นกระตุ้นการขาย และมีการต่อมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ในปี 2023 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมอยู่ที่ 7.5 หมื่นคัน คิดเป็น 12% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดที่ 6.53 แสนคัน โดยเราคาดจะสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15-20% สอดคล้องกับตลาดโลก ปัจจุบัน BYD เป็นเบอร์ 1 โดยคาดยอดขาย รถยนต์ BYD ยังมีแนวโน้มการเติบโตเท่าตัวจาก 3 หมื่นคันในปี 2023F มาที่ 5- 6 หมื่นคันในปี 2024F และหากอ้างอิงสัดส่วนยอดขาย BYS ในปัจจุบันของ SUSCO ที่ 10% ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ของ SUSCO น่าจะได้ใกล้เคียงเป้าหมาย ที่ 5-6 พันคัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้ (จากปัจจุบัน 10% ของ รายได้) และคาดว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น