บล.กรุงศรีฯ:

POWER SECTOR: SPP เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว (POSITIVE)

  • What’s new

Single pool gas เริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2024

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศค่า Ft สำหรับเดือนมกราคม-เมษายน 2024 ที่ 0.4 บาท/kWh ตำกว่า 0.89 บาท/kWh ที่เสนอในการทำประชาพิจารณ์ ส่วนราคา Single pool gas (การปรับโครงสร้างราคา pool gas) จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2024 ไปจนกว่า กกพ. จะกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซอย่างเป็นทางการออกมา

  • Analysis

ค่า Ft (ม.ค.-เม.ย. 2024) ที่ลดลงเหลือ 0.4 บาท/KWh มาจากสี่ปัจจัยหลัก

การปรับลดค่า Ft รอบล่าสุดมาจากสี่ปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุน pool gas ลดลง ซึ่งได้แก่ i) การเลื่อนคืนเงินอุดหนุนของ กฟผ. (ทำให้ค่า Ft ลดลงไป 0.25 บาท/kWh) ii) การปรับสมมติฐานราคา LNG ไนตลาด spot (ทำให้ค่า Ft ลดลงไป 0.10บาท/kWh) iii) การปรับโครงสร้างราคา pool gas (ทำให้ค่า Ft ลดลงไป 0.10/KWh) และ iv) PTT Shortfall 4.3 พันลบ. เนื่องจากไม่สามารถส่งมอบก๊าซได้ตามเงื่อนไขสัญญาซือขายก๊าซ (ทำให้ค่า Ft ลดลง 0.044 บาท/kWh) ทังนี้ กกพ.คาดว่าราคา pool gas price น่าจะลดลงจาก 387 บาท/mmbtu เหลือ 333บาท/mmbtu อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคา single pool gas ใน 1Q24 น่าจะอยู่ที่ 315 บาท/mmbtu ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของ กกพ. เพราะสมมติฐานราคา LNG ในตลาด spot ของเราต่ำกว่า โดยอยู่ที่ US$12/mmbtu (ราคา LNG ในตลาด spot ใน 1Q24TD อยู่ในช่วง US$9.8-11/mmbtu) ซึ่งอาจจะทำให้เงินอุดหนุนของ กฟผ.ลดลง (ปี 2023F อยู่ที่ 1.27 แสนล้านบาท)

คาดว่า margin ของ IU จะเพิ่มขึ้นในปี 2024-2025

เราคาดว่า margin ของ IU จะเพิ่มขึ้นจาก 0.5-0.6 บาท/mmbtu ใน 4Q23 เป็น 1.0 บาท/kWh ในปี 2024 (ใช้สมมติฐานค่า Ft ที่ 0.4 บาท/kWh) ซึ่งจะเป็นบวกต่อระดับ margin ของ IU และจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2024/2025F ของ BGRIM มี upside อีก 15% เนื่องจากต้นทุนก๊าซ SPP ต่ำกว่าที่คาดไว้ เพราะมีการนำราคา single pool gas มาใช้เร็วกว่าคาด เรามองว่าค่า Ft (พฤษภาคม-สิงหาคม 2024) น่าจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย เพื่อทยอยคืนเงินอุดหนุนให้ กฟผ. อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า margin ของ IU จะเพิ่มขึ้นเพียงแค่ในช่วงสั้นเท่านัน (1-2 ปี) เพื่อคืนเงินอุดหนุน กฟผ. ให้หมด ในขณะที่เรายังคงมองว่าค่า Ft มีแนวโน้มจะลดลงในระยะยาว จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโครงการพลังงานหมุนเวียน

  • Action/ Recommendation

เราเลือก CKP และ GPSC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้

CKP จะได้อานิสงส์มากที่สุดจากธีมของการเปลี่ยนผ่านจากภาวะ El Nino โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะโตปีละ 19% ในช่วงปี FY24F/25F ส่วน GPSC จะได้อานิสงส์จาก margin ของ IU ที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตจากการขยายโครงการ Avaada (solar platform ในอินเดียจะทำให้กำลังการผลิตเพิมขึ้นจาก 3.9GW เป็น 9GW ในปี 2025), CFXD (โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน ซึ่งกำหนด COD เต็มรูปแบบในปี 2024) และ ERU (SCOD ในปี 2025)

- Advertisement -