บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Tisco Financial Group (TISCO.BK/TISCO TB)*

มาร์จิ้นลดลงกดดันกำไรปีนี้

Event

ประกอบการ 4Q66 และปี 2566, ประชุมนักวิเคราะห์ และปรับประมาณการกำไร

lmpact

โมเมนตัมของกำไรอ่อนแอลงใน 4Q66 โดยที่ NIM ลดลง

กำไรสุทธิของ TISCO ใน 4Q66 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (-5% QoQ และ +1% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 4% เนื่องจากคชจ.สำรองฯ(credit cost) สูงเกินคาด ในขณะที่กำไรสุทธิเต็มปี 2566 อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท (+1%) ซึ่งเมื่อดูไส้ในของงบ 4Q66 พบว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนที่ yield สูง (+5% QoQ และ 18% YoY) เร่งตัวขึ้นในขณะที่สินเชื่อจดจำนอง และ สินเชื่อ H/P ลดลง ในขณะเดียวกัน NIM ลดลงเกือบ 20bps QoQ ใน 4Q66 และ 30bps ในปี 2566 เพราะถูกกดดันจากต้นทุนทางการเงิน ส่วนทางด้านของคุณภาพสินทรัพย์ยังคงอ่อนแอลง เพราะ NPL พุ่งสูงขึ้นจากการปล่อยกู้สินเชื่อใหม่ในกลุ่ม yield สูง ในขณะที่สัดส่วน NPL coverage ลดลงอย่างมากมาอยู่ที่ 190% ใน 4Q66 (จาก 250% ในปี 2565)

แรงกดดันทางด้านต้นทุนทางการเงินจะฉุดให้ NIM ลดลงอีกในปี 2567

ผู้บริหารของ TISCO บอกว่าต้นทุนทางการเงินยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะยังมีการปรับดอกเบี้ยเงินฝากที่มีช่วงเหลือเวลากันอยู่ ทั้งนี้ หากดอกเบี้ยไม่ขยับจากระดับปัจจุบัน ต้นทุนทางการเงินน่าจะถึงจุดสูงสุดในช่วงกลางปีนี้ หรือ ใน 3Q67 ซึ่ง yield ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อ yield สูงยังไม่มากพอที่จะชดเชยแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น magin จึงมีแนวโน้มจะลดลงไปอีก เราจึงปรับลดสมมติฐาน NIM ปี 2567-2568 ลงเหลือ 4.7%/4.9% (จากประมาณการเดิมที่ 4.9%/5%)

ราคารถมือสองที่ตกทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงใหม่

ราคารถมือสองที่ตกในช่วงนี้ ทำให้ธนาคารเป็นกังวลกับคุณภาพสินทรัพย์ที่เปราะบางของธุรกิจ H/P และสินเชื่อจำนำทะเบียนในปี 2567 ทั้งนี้ จากการที่ราคารถมือสองลดลงประมาณ 20% ใน 4Q66 ธนาคาร จึงคาดว่าสินเชื่อ H/P และสินเชื่อจำนำทะเบียนที่เพิ่มขึ้น อาจจะทำให้เกิดผลขาดทุน และจำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่ม ในขณะเดียวกัน ส่วนรองรับหนี้เสียก็บางลง โดยสัดส่วน NPL coverage ลดลงมาอยู่ที่ 190%ใน 4Q66 (จาก 250% ในปี 2565) ทั้งนี้ ธนาคารจะทยอยเพิ่ม credit cost ไปจนเข้าสู่ระดับปกติที่ 1% ซึ่งในประมาณการกำไรปี 2567/2568 ของเราใช้สมมติฐาน credit cost ที่ 0.6%/0.8%

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2567/2568 ลง 16%/15%

เราปรับลดประมาณการกำไรลงเนื่องจากเรา 1) ปรับลดสมมติฐาน NIM ปี 2567/2568 ลงเหลือ 4.7%/4.9% (จากประมาณการเดิมที่ 4.9%/5%) 2) ปรับลดอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนในปี 2567/2568 เป็น 0%/+3% (จากประมาณการเดิมที่ +5%/5%) นอกจากนี้ เรายัง de-rate PBV เหลือ 1.7x (จากเดิมที่ 1.9x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2567F ใหม่ที่ 98 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 107.50 บาท) เรายังคงคำแนะนำถือ เพื่อรอรับเงินปันผล

Risks

ราคารถมือสองยังคงตกอีกอย่างหนัก, NPL จากสินเชื่อจำนำทะเบียนเพิ่มขึ้น, credit cost สูงขึ้น

- Advertisement -