ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index ลดลง 5 จุด (-0.38%) ปิดที่ระดับ 1,402 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่ม อิเล็กฯ, ไฟฟ้า และ ไฟแนนซ์ หลัง US Bond yield 10 ของสหรัฐกลับมาเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 4% อีกครั้ง
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,390 1,395 จุด จากความไม่แน่นอนในทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ โดยล่าสุด Fedwatch tool ลดโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยสำหรับการประชุม FED เดือนมี.ค.ส่งผลให้ US bond yield พุ่งขึ้นเหนือ 4% และเงิน USD แข็งค่าซึ่งเป็นลบต่อ Fund flow และภาวะการลงทุน ดังนั้นจึงยังคงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
- PTTEP RCL อานิสงส์ความไม่สงบในทะเลแดง
- CPF BTG TFG รัฐบาลหารือผู้ประกอบการค้าปลีกในการช่วยพยุงราคาหมู
- WHA AMATA CBG TU ITC AUCT PLANB SABINA แนวโน้ม 4Q23 เติบโต
หุ้นแนะนำวันนี้
- LH (ปิด 7.95 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 9.40 บาท) ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท (โครงการเดิมปี 66 ยกมา 6.8 หมื่นล้านบาท) คาดสร้างยอดขายปีนี้ 3.1 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 35%yoy และคาดว่าจะโอนและรับรู้รายได้ประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาทโต 40% yoy, คาดมีปันผล 2H23 ประมาณ 0.3-0.4 บาทต่อหุ้นให้ dividend yield 4-5%
- SABINA (ปิด 27.25 ซื้อ/เป้า 33 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q23 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%qoq และ 15% yoy จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตาม High season ของธุรกิจแนวโน้ม 1Q24 โตต่อเนื่องจากผลบวกของมาตรการ Easy e- Receipt, มีนโยบายจ่ายปันผล 100% ให้ Dividend yield 5-6% ต่อปี
บทวิเคราะห์วันนี้
SPRC, TTW, TU
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลุ่มท่องเที่ยว – มีสัญญาณบวกจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา: กองเศรษฐกิจการท่องเทียวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประจำสัปดาห์ (8-14 ม.ค.) เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.9 แสนคนเพิ่มขึ้น 14.75%wow จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ อาทิ จีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.04 แสนคนเพิ่มขึ้น 27.75%wow ตามด้วยมาเลเซีย และเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 27 และ 23%wow ตามลำดับ
(-) ดาวโจนส์ปิดลบ 232 จุด กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนาน: ดาวโจนส์ปิดที่ 37,361.12 จุด ลดลง 231.86 จุด หรือ -0.62%, จาก 1) กังวลเฟดคงดอกเบี้ยสูงนานหนุน Us bond yield 10 ปี กลับมาพุ่งสูงเกินระดับ 4% 2) ผิดหวังงบกลุ่มธนาคาร หลังมอร์แกน สแตนลีย์ รายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2023 อยู่ที่ 0.85 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์
(+/-) วันนี้ติดตามรายงานตัวเลข ศก.จีน โดยเฉพาะการประกาศ GDP 4Q23: เบื้องต้น Consensus คาดขยายตัว 5.3% จาก 3Q23 ขยายตัว 4.9% ทำให้ทั้งปี คาดว่าจะขยายตัว 5.25% ใกล้เคียงกับเป้าหมายของทางการจีนที่ 5% นอกจากนี้ ยังมีตัวเลข ศก. อื่นๆ ให้ติดตาม อาทิ รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาบ้านประจำเดือน ธ.ค. 2023
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) ครม. เคาะกรอบงบประมาณปี 68 วงเงิน 3.6 ล้านล้านบาทขาดดุล 7.1 แสนล้านบาท
(+) ครม. เห็นชอบให้ปรับลดภาษีสรรพสามิต น้ำมันดีเซลลง 1 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันนี้ – 19 เม.ย. 67 เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน
(+) กกพ. แย้มค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค.67 สูงขึ้นอีกเป็นไม่ต่ำกว่า 4.25-4.26 บาท/หน่วย
(+) คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมมีมติให้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำนมโคดิบ อีก 2.25 บาท/กก. หรือจากเดิม 20.50 บาท/กก. เป็น 22.75 บาท/กก.
สหรัฐ
(+/-) สหรัฐ – นายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัส (caucus) ครั้งแรกของปี 2567 ในรัฐไอโอวาการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการคัดเลือกผู้แทน พรรครีพับลิกันเพื่อไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงปลายปีนี้
(-) กองทัพสหรัฐได้ทำการโจมตีครั้งใหม่ต่อฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน โดยพุ่งเป้าไปที่ขีปนาวุธต่อต้านเรือของกลุ่มฮูตี
(-) ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. ดิ่งลงสู่ระดับ -43.7 ต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -4.0 จากระดับ -14.5 ในเดือนธ.ค.
ยุโรป
(+) เยอรมนี – ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี ในเดือนธ.ค. 2566 เพิ่มขึ้น 3.7% จากระดับ 3.2% ในเดือนพ.ย.
เอเชีย
(-) ญี่ปุ่น – ดัชนี PPI เดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% จาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้า และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง