ยังไม่พบสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับหุ้นไทย

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 0.6% ถูกกดดันจากการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ปรับขึ้นสูงกว่าระดับ 4% หลังจากหนึ่งในผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่ามีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ย แต่อาจปรับอย่างระมัดระวัง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.2% ตามการโจมตีทะเลแดง

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้รายงานดัชนีภาคผลิตของรัฐ New York ที่ระดับ -43.7 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยคาดไว้ที่ -4.9 องค์ประกอบภายในพบว่าย่ำแย่ในหลายๆ อย่าง อาทิ คำสั่งซื้อใหม่ การจัดส่ง สภาพธุรกิจ อย่างไรก็ตามผลสำรวจต่อความเห็นในช่วงถัดไปผู้ประกอบการเชื่อว่าจะค่อยๆดีขึ้น นักลงทุนยังจึงมิได้กังวลกับภาวะเศรษฐกิจมากนัก แต่กลับไปให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงของถ้อยแถลงของหนึ่งในคณะกรรมการ FED อย่าง Christopher Waller ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ตัวเขาเชื่อว่าก็สมควรจะปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาช่วงปรับลดดอกเบี้ยของ FED มักจะปรับลงเร็วและปรับลงจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกับรอบปัจจุบันตนไม่คิดว่าจะต้องปรับลงเร็วให้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลกับภาวะดอกเบี้ยอีกครั้งสะท้อนผ่าน US Bond Yield ที่ปรับขึ้น และ CME FED Watch ปรับน้ำหนักใหม่เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย โดยความน่าจะเป็นต่อการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เหลืออยู่ที่เพียง 62.3% จากเดิมที่ 77% สร้างแรงกดดันระยะสั้นต่อทุกสินทรัพย์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ทองคำ ตลาดพันธบัตร โดยจากนี้รอติดตามประชุม FED ช่วงปลายเดือน ม.ค. เพื่อรอดูสัญญาณดอกเบี้ยจากประธาน FED หากกลับมาส่งสัญญาณผ่อนคลายตลาดหุ้นก็จะกลับมาปรับขึ้นได้อีกครั้ง ส่วนคืนนี้รอติดตามยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหรรมของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 0.4%MoM, -0.1%MoM ตามลำดับ ขณะที่เช้านี้ช่วงเวลา 9 โมงตามเวลาประเทศไทยจีนมีกำหนดรายงาน GDP ช่วง 4Q23 Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 5.3%YoY ดีขึ้นจาก 3Q23 ที่ 4.9%YoY หากรายงานดีกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดหุ้น

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1395 – 1410 เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีระยะสั้นอาจผันผวนตาม US Bond Yield แต่ระยะกลาง – ยาว ยังคงมุมมอง US Bond Yield จะปรับลงและตลาดหุ้นจะกลับมาสดใสอีกครั้งช่วงเวลาดังกล่าว การปรับฐานจึงเป็นโอกาสสะสมเช่นเดิม เน้นที่กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มการเงิน (SAWAD TIDLOR) ส่งออก (ITC TU) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ระยะสั้นแนะ Trading TU

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 19.70 บาท)

TU มีการแจ้งตลาดถึงการถอนการลงทุนใน Red Lobster หลังจากเข้าลงทุนตั้งแต่ปี 2016 ผลกระทบเบื้องต้นคือ TU ต้องมีการบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวนมูลค่ารวมประมาณ 18,500 ล้านบาท โดยจะรับรู้เข้ามาในช่วง 4Q23 นี้ทันที ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในงวดดังกล่าวและปี 23 มีผลขาดทุนอย่างมาก อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด ทำให้ TU จะมีการขอผ่อนปรนกับผู้ถือหุ้นกู้ในการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการทั้งปี ทั้งนี้เรามองว่าการทำดังกล่าวจะเป็นผลดีระยะยาวที่ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามาปีละกว่า 500-1,000 ล้านบาท

CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 84.50 บาท)

ปี 24 เราคาดว่าผลประกอบการยังเติบโตได้ดี หลังมีการเปิดโครงการใหม่อีก 2 แห่งที่นครสวรรค์และนครปฐม และรับรู้รายได้จากศูนย์เวสท์วิลล์ที่เปิดในเดือน พ.ย. 23 เต็มปี ทำให้เบื้องต้นเราคาดกำไรที่ 15,161 ล้านบาท (+5%YoY)

- Advertisement -