บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
Triple I Logistics (III)
คาดกำไร 4Q66 ถูกกดดันจาก Dilution Effect ของ ANI
Action TRADING (Downgrade)
TP upside (downside) +3.1%
Close Jan 9, 2024 Price (THB) 9.70
12M Target (THB) 10.00
Previous Target (THB) 14.40
What’s new?
- บริษัทรายงานกำไรปกติ 3Q66 ที่ 159 ลบ. (-2.8% QoQ, +11.9% YoY) เติบโต YoY หนุนจากส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศ
- คาดกำไรปกติ 4Q66 ลดลง QoQ และ YoY จาก Dilution Effect การ Spin-off ANI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
- คาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 497 ลบ. ลดลง 13.5% YoY ถูกกดดันจาก Dilution Effect จาก ANI
Our view
- ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2567 ลง 34.2% เป็น 497 ลบ. จาก Dilution Effect ที่เกิดขึ้นหลังธุรกรรม IPO ของ ANI
- ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “TRADING” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ที่ 10.00 บาท/หุ้น
- เชิงกลยุทธ์แนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามความคีบุหน้าของแผนการเข้าทำธุรกรรม M&A ที่คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนภายใน 1H67 ซึ่งจะเป็น Catalyst สำคัญต่อการเติบโตของผลประกอบการ
กำไร 3Q66 ที่ผ่านมายังประคองตัวดีจากการเติบโตของ In-organic Growth
บริษัทรายงานกำไรปกติ 3Q66 ที่ 159 ลบ. (-2.8% QoQ, +11.9% YoY) ทรงตัว QoQ แต่เติบโต YOY จาก 1) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมค้าที่คือ ANI และ AOTGA ที่ยังแข็งแกร่งจากผลประกอบการที่ดีในด้าน Cargo GSA และ Ground Handling Services (GHS) และ 2) อัตรากำไรขั้นต้นรายงานที่ 26.2% (+550 bps QoQ, +220 bps YoY) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและการเน้นไปยังธุรกิจขนส่งทางอากาศและโลจิสติกส์เคมีภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง
คาดผลประกอบการ 4Q66 ถูกกดดันจาก Dilution Effect ของ ANI
เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q66 มีแนวโน้มที่จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY จากสัดส่วนการถือ ANI ของบริษัทที่ลดลงเป็น 36.1% จาก 51.3% หลังการ IPO อย่างไรก็ตาม ประเมินธุรกิจหลักยังแข็งแกร่ง โดยคาดจากรายได้จะเติบโตขึ้นได้ราว 5-10% QoQ โดยมีปัจจัยหนุนคือ 1) ค่าระวางอากาศ (อิง Baltic Air Freight Index คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย +26.6% QoQ) ที่ฟื้นตัวจะส่งผลดีต่อธุรกิจ Air Freight และ GSA ส่วนจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นใน High Season จะเป็นแรงหนุนให้ธุรกิจ GHS ของ AOTGA (อิงข้อมูล AOT เที่ยวบิน 9M66 โต +49% YOY คาด 4Q66 โตราว +7% QoQ) 2) ภาคการส่งออกไทยที่คาดเติบโตใน 4Q66 เป็นปัจจัยบวกต่อการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์เคมี (+2.5% QoQ) ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดส่งผลบวกต่อธุรกิจโลจิสติกส์เคมีภัณฑ์และ 3) ค่าระวางเรือที่ปรับตัวขึ้นจากปัจจัยด้านอุปทานคาดเป็นปัจจัยสำคัญหนุนรายได้ธุรกิจขนส่งทางทะเล (อิง BDI คาดค่าเฉลี่ยในช่วง 4Q66 จะอยู่ที่ 2,029 จุด เทียบกับ 3066 ที่ 1,194 จุดและ 4Q65 ที่ 1,523 จุด)
อีกปีแห่งความท้าทายแต่ลุ้น Upside Risk จากการทำ M&A
คาดกำไรปกติปี 2567 ที่ 497 ลบ. (-13.5% YoY) ถูกกดดันจาก 1) แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่คาด ว่าจะเติบโตช้าลงโดย IMF ได้คาดการณ์การเติบโต GDP โลกที่ 3.0% ในปี 2566 และ 2.5% ใน 2567 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 19 ปีที่ 3.8% จากผลของอัตราดอกเบี้ยนโยบายธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่คาดยังอยู่ในระดับสูง 2) ความเสี่ยงด้านการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 ที่อาจต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลและคาดการณ์จากตลาด และ 3) Diltion Effect ของ ANI ทำให้เราคาดส่วนแบ่งกำไรร่วมค้าปี 2567 จะอยู่ที่ 551 ลบ. ทรงตัว YoY
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์กำไรปกติของเรายังมี Upside Risk จากธุรกรรม M&A โดยเฉพาะหลังการ IPO ของบริษัทย่อย “ANI” ซึ่งจะมีเงินทุนเหลือในการขยายบริษัทหลังการชำระหนี้ค่าหุ้นค้างจ่ายจากการซื้อธุรกิจ Cargo GSA ใน 4Q65
ปรับลดคำแนะนำเป็น “TRADING” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 10.00 บาท/หุ้น
เราปรับลดคาดการณ์กำไรปกติปี 2566/67 ลง 14.1% และ 34.2% เป็น 575 ลบ. และ 497 ลบ. ตามลำดับจากการปรับลดสมมติฐาน ดังนี้ 1) Dilution ของส่วนแบ่งกำไรร่วมค้าจาก ANI จากเดิมที่ 51% เป็น 36% และ 2) ปรับลดรายได้ปี 2566/67 ลง 22.3% และ 28.3% เป็น 1.7 พันลบ. และ 1.8 พันลบ. เป็นผลมาจากการลดประมาณการรายได้ Wholesale Air Freight สืบเนื่องจากปัจจัยเชิงมหภาคที่มีความท้าทาย
อิง EPS67 ที่ 0.62 บาท/หุ้น และ PER ที่ 16.1x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 10.00 บาท/หุ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น “TRADING” เชิงกลยุทธ์แนะนำชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามความคืบหน้าของแผนการเข้าทำ M&A ที่คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนภายใน 1H67 ซึ่งจะเป็น Catalyst สำคัญต่อการเติบโตของผลประกอบการ