บล.พาย:

TU Thai union group PCL

ถอนการลงทุนใน Red Lobster เจ็บระยะสั้น แต่ดีระยะยาว

วานนี้ (16 ม.ค.) TU มีการแจ้งตลาดถึงการถอนการลงทุนใน Red Lobster หลังจากเข้าลงทุนตั้งแต่ปี 2016 ผลกระทบเบื้องต้นคือ TU ต้องมีการบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนทั้งจำนวนมูลค่ารวมประมาณ 18,500 ล้านบาท โดยจะรับรู้เข้ามาในช่วง 4Q23 นี้ทันที ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในงวดดังกล่าวและปี 23 มีผลขาดทุนอย่างมาก อย่างไร ก็ตามรายการดังกล่าวเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด ทำให้ TU จะมีการขอผ่อนปรนกับผู้ถือหุ้นกู้ในการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการทั้ง ปี ทั้งนี้เรามองว่าการทำดังกล่าวจะเป็นผลดีระยะยาวที่ไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามาปีละกว่า 500-1,000 ล้านบาท ดังนั้นเราจึง ยังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม

ถอนการลงทุนใน Red Lobster

  • TU มีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการถอนการลงทุนใน Red Lobster หลังจากเข้าลงทุนมาตั้งแต่ปี 2016 โดยแบ่งการลงทุนเป็น หุ้นสามัญ 25% และหุ้นกู้แปลงสภาพ มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 580 ล้านเหรียญฯ ซึ่งปัจจุบันเงินลงทุนทั้งหมดมีมูลค่าประมาณ 530 ล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 18,500 ล้านบาท สาเหตุที่ถอนการลงทุนเนื่องจาก TU มีการวางแผนการเติบโตไปถึงปี 30 โดยจะหันไปเน้นธุรกิจหลักอย่างกลุ่มอาหารทะเลและอาหารสัตว์เลี้ยงมากขึ้น อีกทั้ง Red Lobster มีความต้องการเงินลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถสร้างผลกำไรได้จึงทำให้ TU ตัดสินใจถอนการลงทุนดังกล่าว
  • ผลกระทบคือ TU จะมีการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนดังกล่าวเข้ามาในช่วง 4Q23 นี้ (ทั้งนี้มูลค่าที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับผลขาดทุนของ Red Lobster ในงวด 4Q23 และค่าเงินอีกครั้ง) ทำให้ผลประกอบการในงวดดังกล่าวมีโอกาสจะเห็นผลขาดทุนอย่างมากจากเดิมที่เราเคยคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 1,500 ล้านบาท (เราจะมีการประชุมกับบริษัทเพื่อประเมินผลประกอบการงวด 4Q23 ก่อนจะมีบทวิเคราะห์ตามมา) และทำให้ผลประกอบการทั้งปีพลิกจากที่คาดว่าจะมีกำไรกว่า 4,800 ล้านบาท เป็นขาดทุนทันที (9M23 TU มีกำไรสุทธิ 3,256 ล้านบาท)
  • การบันทึกดังกล่าวจะเป็นการลดลงในส่วนของเงินลงทุนที่อยู่ในสินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้น ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจากเดิมอยู่ที่ 0.65 เท่า ในช่วง 9M23 ขึ้นเป็น 0.8 เท่า (อ้างอิ่งจากงบ 9M23) แต่ยังไม่เกินเงื่อนไข 2.0 เท่าที่ทำไว้กับผู้ถือหุ้นกู้แต่อย่างใด
  • อย่างไรก็ตามจากผลขาดทุนเป็นการผลิตเงื่อนไขบางส่วนกับทางเจ้าหนี้ ทำให้อาจจะมีผลต่อการจ่ายเงินปันผล แต่ด้วยการที่เป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด ทำให้ TU จะมีการเจรจาผ่อนผันเงื่อนไขกับเจ้าหนี้ เพื่อให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ (โดยจ่ายจากผลประกอบการที่ไม่รวมรายการด้อยค่าดังกล่าว)

เจ็บแต่จบ

ผลดังกล่าวเรามองว่าเป็นปัจจัยลบระยะสั้น แต่ระยะยาวด้วยไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก Red Lobster ที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมารับรู้เฉลี่ยปีละกว่า 3,600 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนทางบัญชี) แม้จะทำให้มีการจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นและไม่มีดอกเบียรับเข้ามา (เฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาท แต่หยุดรับรู้ตั้งแต่ 2Q22 ที่ผ่านมา) แต่รวมแล้วเราคาดว่าจะเป็นผลบวกมากกว่า โดยเราอาจจะมีการทบทวนประมาณการปี 24 อีกครั้ง หลังประกาศผลประกอบการ สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรามองว่าการทำดังกล่าวจะเป็นผลดีระยะยาว เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม

TU ประกาศซื้อห้นคืน 200 ล้านห้นวงเงิน 3,600 ล้านบาท เริ่ม 20 ก.พ.

- Advertisement -