บล.บัวหลวง: 

Land and Houses (LH TB / LH.BK)

LH – แผนธุรกิจเชิงรุกดี…แต่ไม่ใช่ตอนนี้

ผู้บริหารเปิดแผนธุรกิจเชิงรุกสำหรับปี 2567 โดยตั้งเป้ายอดขาย ปี 2567 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% YoY และตั้งเป้ายอดโอนโครงการเชิงรุกที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% YoY แต่จากมุมมองของเรา เรามองว่าเป็นเรื่องยากสำหรับ LH ที่จะเห็นอัตราการจองในระดับก่อนโควิด (20-25%) ดังนั้นเราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือเพื่อรอเงินปันผล” จาก “ซื้อเก็งกำไร” เนื่องจาก LH จะจ่ายอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3.8% สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

ผู้บริหารเปิดแผนธุรกิจเชิงรุกสำหรับปี 2567

มูลค่าเปิดตัวโครงการของ LH ปี 2566 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.35 หมื่นล้านบาท (แนวราบ 65% และคอนโด 35% โดยเปิดตัวเพียง 1 โครงการใน ปี 2566 35%) เพิ่มขึ้น 34% มูลค่าเปิดตัวรวมสำหรับปีนี้สูงกว่าแผนเดิมที่ประกาศเมื่อต้นปี 2566 ถึง 24% รวมเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเปิดตัวคอนโดขนาดใหญ่ในเมือง (วันเวลา ณ เจ้าพระยา มูลค่าโครงการ 1.5 หมื่นล้านบาท) ในปี 2567 LH จะเปิดตัวโครงการน้อยลงแต่ยังคงเน้นไปที่โครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิของบริษัทสูงกว่า 1 เท่า ในปี 2567 โดย LH จะเปิดตัว 11 โครงการมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด เพิ่มขึ้น 6% YoY นอกจากนี้ ผู้บริหารยังตั้งเป้ายอดขายปี 2567 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (โครงการแนวราบ 82% และโครงการคอนโด 18%) เพิ่มขึ้น 35% YoY จากฐานที่ต่ำในปี 2566 และยังตั้งเป้ายอดโอนโครงการเชิงรุกที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% YoY

LH จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายปี 2567 ไหม?

ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของกลุ่มอสังหาที่ถูกกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่สูง สินเชื่อธนาคารที่ตึงตัว อัตราการจำนองที่สูงขึ้น อัตราการปฏิเสธที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ต้นต้นทุนให้สูงขึ้น และระดับสินค้าคงคลังที่สูง แต่เรามองใน มุมที่ต่างออกไป เนื่องจากแผนธุรกิจปี 2567 มุ่งเน้นไปที่กลุ่มระดับบนเป็นหลัก เราจึงเห็นว่าเป็นเรื่องยากสำหรับ LH ที่จะเห็นอัตราการจองในระดับ ก่อนโควิด (20-25%) ดังนั้นเราจึงคาดการณ์เชิงอนุรักษ์นิยมไว้ที่ 2.4หมื่นล้านบาทสำหรับยอดขาย (ทรงตัว YoY) และ 2 หมื่นล้านบาทสำหรับยอดโอน (ทรงตัว YoY)

กำไรไตรมาส 4/66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2566 หนุนจากการขายการลงทุน

ในไตรมาส 4/66 ผู้บริหารได้แยกโรงแรม 2 แห่งในพัทยามูลค่า 9.8 พันล้านบาทให้กับ LHHOTEL (กองรีท) ซึ่งเราคาดว่ากำไรพิเศษสุทธิจะอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิของ LH ในไตรมาส 4/66 จะอยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% YoY และ 177% QoQ หากไม่รวมกำไรจากการขายการลงทุน กำไรหลักคาดจะอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 41% YoY แต่เพิ่มขึ้น 12% QoQ เราคาดว่า LH จะจ่ายเงินปันผลที่ 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 3.8%

ถือรอรับปันผล

LH ซื้อขายบน PER ปี 2567 ที่ 15.6 เท่า (สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12.5 เท่า) และราคาหุ้นทะลุราคาเป้าหมายปี 2567 ของเราที่ 7.95 บาทแล้ว เราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือเพื่อรอเงินปันผล” จาก “ซื้อเก็งกำไร” เนื่องจาก LH จะจ่ายเงินปันผลต่อหุ้นที่ 0.30 บาท สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 หรืออัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูงถึง 3.8%

 

- Advertisement -