บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
Thai Union Group (TU.BK/TU TB)*
บันทึกการด้อยค่าของ Reb Lobster และการซื้อหุ้นคืน
Event
TU ประกาศเมื่อวานนี้ว่ามีเจตนาจะถอนการลงทุนจากการลงทุนส่วนน้อยใน Red Lobster Master Holdings, L.P. (Red Lobster) เพราะธุรกิจของ Red Lobster ส่งก่อให้เกิดผลกระทบทางการเงินในด้านลบต่อบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในระหว่างที่ TU ยังศึกษาช่องทางที่เป็นไปได้ในการถอนการลงทุนนี้ บริษัทจะบันทึกรายการด้อยค่าที่ไม่ใช่เงินสดครั้งเดียวจำนวนประมาณ 1,85 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 530 ล้านดอลลาร์ฯ) ใน 4Q66 นอกจากนี้ TU ยังได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน โดยกำหนดวงเงินขั้นสูงสุดไว้ไม่เกิน 3.6 พันล้านบาท หรือไม่เกิน 200 ล้านหุ้น ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567–30 มิถุนายน 2567
Impact
ผลประกอบการปี 2567F จะได้รับผลกระทบด้านลบ แต่จะเป็นบวกกับกำไรปี 2567F
เราคาดว่าการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่า 1.85 หมื่นล้านบาทใน 4Q66F จะทำให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1.38 หมื่นล้านบาทในปี 2566F (จากก่อนหน้านี้ที่เราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 4.7 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ 1Q67 เป็นต้นไป TU จะไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจาก Red Lobster อีก ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลบวกสุทธิ 510 ล้านบาท หรือ 9% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2567F ของเราที่ 5.8 พันล้านบาท
จะกระทบกับ debt covenant ไม่มาก แต่ทำให้การจ่ายเงินปันผลงวดปี 2566F มีความไม่แน่นอน
TU จะตัดรายการจำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท ออกจากทั้งสินทรัพย์ และส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งจะทำให้สัดส่วน IBD/E สุทธิ เพิ่มขึ้นเป็น 0.7x ในปี 2566F และ 2567F จากที่เราประเมินไว้กก่อนหน้านี้ที่ 0.6x สำหรับทั้งสองปี อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวยังต่ำกว่า debt covenant ที่ 2.0x อีกมาก แต่การบันทึกการด้อยค่าครั้งนี้จะกระทบกับอัตราส่วนความสามารถในการชำระดอกเบี้ย (interest coverage ratio) และข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผล (ไม่เกิน 60% ของกำไรสุทธิ) ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของหุ้นกู้บางชุด ทั้งนี้ TU จะทำการขอยกเว้นเงื่อนไขดังกล่าวจากผู้ถือหุ้นกู้ก่อนที่จะประกาศผลประกอบการในเดือนกุมภาพันธ์
ในภาพรวม เรามองบวกกับการตัดสินใจครั้งนี้
ถึงแม้ว่าประมาณการกำไรสุทธิ และประมาณการเงินปันผลปี 2566F ของเราจะยังมี downside แต่เรามองบวกกับการที่ตัดสินใจของ TU ในถอนการลงทุนครั้งนี้ เพราะเราไม่คิดว่า Red Loster จะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจได้ในอนาคตอันใกล้ โดยการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด และจะไม่กระทบกับเงินทุนหมุนเวียน (working capital) ของ TU ในขณะที่ TU จะไม่ต้องอัดฉีดเงินทุนเข้าไปใน Red Lobster อีก และสามารถนำทรัพยากรทางการเงินดังกล่าวไปเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักแทน ทั้งนี้ TU คาดว่าจะยังรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าตามปกติกับ Red Lobster ต่อไป และจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการขายเงินลงทุนออกไปในอนาคต
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยมองว่าราคาเป้าหมายปี 2567 ของเราที่ 18.60 บาท จะมี upside อีก 9% จากการ
บันทึกการด้อยค่ารายการนี้ นอกจากนี้ ยังมี upside เพิ่มอีกได้ถึง 4.5% จากโครงการซื้อหุ้นคืน ถ้าหากมีการซื้อหุ้นคืนครบเต็มจำนวน
Risks
ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบ, อัตราแลกเปลี่ยน และการแข่งขันในตลาด