บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)

Land and Houses (LH)

แผนธุรกิจปี 2567 เชิงรุก จากฐานที่ต่ำมาก

Action TRADING (Downgrade)

TP upside (downside) N.A.

Close Jan 16, 2024 Price 7.95

12M Target UR.

Events

  • บริษัทฯ รายงานยอด Presales 4Q66 อยู่ที่ 8.7 พันลบ. (+56.2% QoQ, +54.7% YoY) โดยแบ่งเป็น 1) โครงการแนวสูงมียอด Presales ที่ 5.3 พันลบ. เพิ่มก้าวกระโดดจาก 200 และ 282 ลบ. ใน 3Q66 และ 4Q65 ตามลำดับ เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการใหญ่คือ วันเวลา ณ เจ้าพระยา มูลค่า 1.5 หมื่นลบ. (ยอดจองซื้อ 35%) และ 2) โครงการแนวราบ ยอด Presales อยู่ที่ 3.4 พันลบ. (-36.5% QoQ, -36.1% YoY) ลดลงเป็นอย่างมาก จากอัตราการยกเลิกลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอด Presales สะสมทั้งปี 2566 อยู่ที่ 2.3 หมื่นลบ. (-23.9% YoY)
  • บริษัทฯ ตั้งเป้าแผนธุรกิจเชิงรุกในปี 2567 ดังนี้ 1) แผนเปิดโครงการใหม่ จำนวน 11 โครงการ มูลค่า 3.0 หมื่นลบ. (-29.8% YoY) มูลค่าลดลง YoY จากฐานสูงของการเปิดตัวโครงการแนวสูงขนาดใหญ่ 1.5 หมื่นลบ. ได้แก่ วันเวลา ณ เจ้าพระยา แต่ในปี 2567 จะเป็นการเปิดโครงการแนวราบทั้งหมด และเน้นในกลุ่มราคา 15-30 ลบ./ยุนิต มากขึ้น และเพิ่มกลุ่มใหม่ที่ระดับราคามากกว่า 80 ลบ./ยูนิต 2) Presales คาดที่ 3.1 หมื่นลบ. (+34.7% YoY) เติบโตจากฐานต่ำ โดยแบ่งเป็นแนวราบ 2.4 หมื่นลบ. และแนวสูง 5.5 พันลบ. (จากโครงการวัน เวลา ณ เจ้าพระยาที่เพิ่งเปิดตัวใน 4Q66 เป็นหลัก) 3) รายได้จากการโอน คาดที่ 2.8 หมื่นลบ. เติบโต Double digits โดยมีสัดส่วนแนวราบราว 92.3% และ 4) รายได้จากธุรกิจให้เช่า คาดเติบโต 11%
  • แผนการลงทุนในปี 2567 อยู่ที่ 1.2 หมื่นลบ. แบ่งเป็นการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย 5.0 พันลบ. และการซื้อสินทรัพย์ในสหรัฐฯ สำหรับธุรกิจให้เช่า 6.5 พันลบ. อีกทั้ง ในปี 2567 บริษัทฯ มีแผนที่จะขายห้างสรรพสินค้า 1 แห่งในพัทยาให้กับ LHSC บริษัทฯ ยังคงยืนยันว่าจะไม่มีนโยบายลดราคา หรือจัดรายการกระตุ้นยอดขายเพื่อเร่งระบายสินค้าคงคลังจากโครงการที่มีอยู่

Our Take

  • เรามีมุมมองเป็นลบต่อการประชุม จากยอด Presales แนวราบใน 4Q66 ที่ทำได้ต่ำกว่าคาด ทำให้เราคาดกำไรปกติ 4Q66 อยู่ที่ 1.6-1.7 พันลบ. เติบโต QoQ แต่ลดลง YoY อย่างไรก็ดี จะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายโรงแรม 2 แห่งในพัทยาที่เราคาดอยู่ที่ 2.5-2.8 พันลบ. (หลังหักภาษี) ซึ่งจะช่วยเข้ามาชดเชยกำไรที่ชะลอตัวลงได้บางส่วน และคาดเงินบันผล 2H66 ที่ 0.39-0.41 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield ราว 5.0%
  • ทำให้แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 2566 โดนกดดันมากกว่าที่เราคาดเดิมสะท้อนจากยอด Presales สะสมทั้งปี 2566 ที่ลดลง -23.9% YoY เราจึงอยู่ระหว่างการทบทวนสมมติฐานและประมาณการกำไรปี 2566/67 เบื้องต้นเรามีแนวโน้มปรับลดประมาณการกำไรปกิติปี 2566 และปี 2567 ลงราว 10-15% เป็น 4.9-5.2 พันลบ.และ 6.5-6.9 พันลบ. ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2567 อยู่ในช่วง 8.10-9.10 บาท/หุ้น จึงปรับคำแนะนำลงเป็น “TRADING”
  • เชิงกลยุทธ์ แนะนำชะลอการลงทุนจนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่ ยกเว้นนักลงทุนระยะกลาง-ยาวที่คาดหวังผตอบแทนจากเงินปันผลเป็นหลัก
- Advertisement -