บล.บัวหลวง:

Thai Union Group (TU TB / TU.BK)

TU – กำไรหลักไตรมาส 4/66 ดีกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้า

ปัจจุบันเราคาดกำไรหลักในไตรมาส 4/66 จะดีกว่าที่เราคาดก่อนหน้า เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น หากไม่รวมการด้อยค่าของธุรกิจเรดล็อบสเตอร์ เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 ลดลง 31% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

กำไรหลักไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มลดลง 31% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ

หากไม่รวมการด้อยค่าของเงินลงทุนธุรกิจเรดล็อบสเตอร์จำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/66 ที่ 1.51 พันล้านบาท ลดลง 31% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2% QoQ (ประมาณการก่อนหน้าเราอยู่ที่ 1.20 พันล้านบาทลดลง 45% YoY และ 19% QoQ) แม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าคาด เนื่องจากความล่าช้าในการจัดส่งของอาหารทะเลแปรรูป จากวิกฤตทะเลแดง แต่อัตรากำไรขั้นต้นมากกว่าที่เราคาดก่อน ปัจจุบันเราคาดยอดขายไตรมาส 4/66ของ TU จะลดลง 10% YoY เพิ่มขึ้น 5% QoQ (ตัวเลขธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงดูดีขึ้น] ธุรกิจเรดล็อบสเตอร์มีแนวโน้มที่จะรายงานขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 432 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 (ก่อนหน้านี้เราคาดขาดทุนที่ 332 ล้านบาท)

อัตรากำไรขั้นต้นอาหารทะเลแช่แข็งและธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/66

ปัจจุบันเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 4/66 ที่ 18.1% (ก่อนหน้าเราคาด 17.5%) ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมของ TU ในการหยุดผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการขาดทุน ปัจจุบันเราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจอาหารทะเลแซ่แข็งและแช่เย็นอยู่ที่ 12.9% ในไตรมาส 4/66 (8.8% ในไตรมาส 4/65 และ 12.9% ในไตรมาส 3/66) นอกจากนั้น เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มขึ้น (จาก 19.4% ในไตรมาส 3/66 ไปเป็น 19.8% ในไตรมาส 4/66) แต่อัตรากำไรขันต้นไตรมาส 4/66 ของธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมีแนวโน้มอ่อนแอ

ประมาณการเบื้องต้นของเราสำหรับผลกระทบของการด้อยค่า

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 6% สะท้อนถึงประมาณการกำไรหลักใหม่ในไตรมาส 4/66 (แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงประมาณการระยะยาวของเรา) ประมาณการปี 2566 ของเรา หากสะท้อนถึงการด้อยค่าของธุรกิจเรดล็อบสเตอร์จำนวน 1.85 หมื่นล้านบาท คาดรายงานขาดทุนสุทธิ 1.36 หมื่นล้านบาท ประมาณการ D/E ที่ปรับปรุงแล้วของเราจะอยู่ที่ 0.88 เท่า (เพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้าของเราที่ 0.62 เท่า) เนื่องจาก TU จะหยุด บันทึกผลขาดทุนจากธุรกิจเรดล็อบสเตอร์ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป ดังนั้นประมาณการกำไรปี 2567 ของเราจึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% (ก่อนการประกาศของ TU เราคาดการณ์ไว้ว่าจะรายงานส่วนแบ่งขาดทุนในปี 2567 ที่ 537 ล้านบาท) เนื่องจากประมาณการกำไรของเราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 ที่ได้มาจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ของเราจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 17.80 บาท เป็น 19 บาท

- Advertisement -