อิงทางบวกได้ต่อ 1630-1645

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ปัจจัยบวกภายนอกหนุนตลาดหุ้น อิงทางบวกได้ต่อ: เช้านี้ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อในกรอบระหว่าง 1630-1645 จุด หลังได้ปัจจัยบวกหนุนจาก 1) วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้สหรัฐระยะสั้น และ 2) การดีดตัวต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงหนุนหุ้นพลังงานอิงทางบวกต่อได้ อย่างไรก็ดี Upside ของตลาดจะดาเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังรอจับตา 1) การกลับมาเปิดตลาดของตลาดหุ้นจีนเป็นวันแรกในวันนี้ หลังวันหยุดยาว Golden Week (1-7 ต.ค.) ซึ่งหากตลาดหุ้นจีนย่อตัวลงอาจกดดัน Sentiment ระยะสั้นในภูมิภาค และ 2) คืนน้ีรอติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐท่ีหากออกมาดีกว่าคาดการณ์ไว้จะยิ่งช่วยสะท้อนภาพเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแข็งแกร่ง ซึ่งอาจมีความกังวลการเร่งตัวของเงินเฟ้อและการปรับนโยบายการเงินของ Fed เข้ามาฉุด Sentiment ลงทุนได้
  • วุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพดานหนี้: วานน้ีนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาพรรคเดโมแครต เปิดเผยว่า สามารถบรรลุข้อตกลงกับวุฒิสภาจากพรรครีพับริกันเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐออกไปจนถึงต้นเดือนธ.ค.64 ทำให้ระยะสั้นเดือนนี้สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งช่วยให้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกผ่อนคลายอีกครั้ง โดยเบื้องต้นสองฝ่ายเห็นสมควรขยายเพดานหนี้เพิ่มขึ้นอีก 480,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (จาก 28.4 ไป 28.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม จุดยืนของสองฝ่ายยังคงแตกต่างกัน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้ยกเลิกระดับเพดานหนี้ หรือขยายเพดานหนี้ออกไปอย่างน้อยถึงสิ้นปี 65 ส่วนพรรครีพับลิกันต้องการกำหนดวงเงินเพดานหนี้ที่ตายตัว
  • จับตาตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ: คืนนี้ติดตามสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย. โดยตลาดคาดอัตราว่างงานจะลดลงมาท่ี 5.1% และการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นกว่า 4.55 แสนราย ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะสูงกว่าคาด หลังตัวเลขการจา้งงานของเอกชนจาก ADP ขยายตัวสูงกว่าคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการฯ สัปดาห์ก่อนลดลงสะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐที่กลับมาเติบโตแข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งอาจเร่งให้ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าคาดในปีหน้า จากข้อมูลล่าสุดนักวิเคราะห์ประเมิน Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในการประชุม FOMC เดือน ธ.ค. 65 มาที่บริเวณ 0.25-0.50% เป็นอย่างน้อย ส่วนการประชุม FOMC เดือนพ.ย.64 คาดว่าจะมีการประกาศทำ QE Tapering อย่างเป็นทางกา
  • รอผลสรุปการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนี: ตลท.เปิดรับฟังความเห็นกรณีปรับเกณฑ์คำนวณดัชนีเป็นวันสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า

Picks of the day

BJC BUY

  • ความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวเป็นบวกต่อการจับจ่าย: ความเช่ือมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังการอนุญาตให้เปิดกิจการกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น รวมถึงการเร่งฉีดวุคซีน คาดส่งผลดีต่อการจับจ่ายใช้สอย โดย BIGC (บ.ย่อย) คาดเห็นยอดขายฟื้นตัวและส่วนลดค่าเช่าปรับตัวดีขึ้น
  • รับประโยชน์จากน้ำท่วม: การเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของภาคต่างๆ จะช่วยสนับสนุนยอดขายของ BIGC ใน 4Q64

KTB BUY

  • คาดกำไร 3Q64 เด่นสุดในกลุ่ม: ทางฝ่ายคาดว่า KTB จะมีกำไร 3Q64 6.4 พันลบ. เพิ่มขึ้นถึง 110.8% y-y และ 7.2% q-q เป็นการเติบโตที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคาร
  • มีข้อได้เปรียบในการเป็นธนาคารรัฐ: การที่เป็นธนาคารรัฐทำให้ KTB มีสินเชื่อภาครัฐเข้ามามาก และทำให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือน ส.ค. เติบโตสูงถึง 9.3% YTD ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคาร
- Advertisement -